ทนายกองทัพธรรม เตือน “ศรีสุวรรณ “ หากไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเพียงพอ อย่ายุ่งเรื่องภายในวัดชลประทาน พร้อมทั้งสำรวจพื้นที่และการล้อมย้ายต้นไม้เพื่อเตรียมสร้างเขตสังฆานุภาพ หลังครบกำหนด30 วัน
วันนี้(22 มี.ค.)ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทีมมูลนิธิทนายกองทัพธรรมและ คณะกรรมการวัดฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าว กรณีที่เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มพระจำนวน 36 รูป ได้ไปร้องเรียนนายศรีสุวรรณ จรรยา กล่าวหาว่า พระราชวัชรธรรมภาณี เจ้าอาวาสฯ รื้อกุฏิพระในเขตสังฆานุภาพ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรื้อต้นโพธิ์พระราชทาน อันเป็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 112,157 ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น และต่อมาเจ้าอาวาสวัด ได้ออกคำสั่งให้พระลูกวัดทั้ง 36 รูป ออกจากเขตสังฆานุภาพ หรือเขตกัมมัฏฐาน ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันนี้ (13 ก.พ.ครบกำหนด 15 มี.ค. ) หากขัดขืนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายต่อไป
ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า “เมื่อครบกำหนด 30 วัน พระทั้ง 36 รูป ก็ได้ย้ายออกไปตามคำสั่งเจ้าอาวาสฯ แต่ก็ยังมีการไปร้องเรียนยังหน่วยงานต่าง ๆ และร้องเรียนไปยังสื่อมวลชน โดยเฉพาะนายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องแห่งชาติ อีกทั้งไม่ยอมขอขมาเจ้าอาวาส
นอกจากนี้ก่อนออกจากเขตสังฆาวาส ยังมีการกระทำเชิงสัญลักษณ์อีกหลายอย่าง เพื่อแสดงถึงการต่อต้านคำสั่ง จึงอยากขอเตือนพระทั้ง 36 รูป หากพวกท่านยังมีพฤติกรรมเดิมๆ คือการร้องเรียนไปทั่ว และกล่าวหาท่านเจ้าอาวาส รวมถึงทนายอนันต์ชัย ด้วย
นับจากวันนี้หากพบหลักฐานการร้องเรียน การต่อต้านคำสั่งอีก จะมีการดำเนินการทางกฎหมายและพระธรรมวินัยทันที ไม่ให้เป็นเหมือนที่ผ่านมา พร้อมใช้ พรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 38(2) และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2521) ว่าด้วยการลงนิคหกรรม ถือว่าไม่อยู่ในโอวาส ละเมิดพระธรรมวินัย จะขับออกจากวัดและคัดชื่อออกจากวัดทันที
พร้อมฝากเตือนไปถึงนายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องแห่งชาติ หากไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายก็หยุดพฤติกรรมที่ร้องไปทั่ว โดยไม่มีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ไม่เช่นนั้นก็จะดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน “ทนายอนันต์ชัยกล่าว
ส่วนในเขตสังฆานุภาพ หลังจากพระ 36 รูป ย้ายออก ได้ให้นักวิชาการ มาสำรวจพื้นที่และต้นไม้ เพื่อเตรียมให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำการอนุรักษ์หรือล้อมย้ายต้นไม้ไปอนุบาล โดยหลังปรับปรุงพื้นที่ ก็จะนำไปปลูกในที่ที่เหมาะสมต่อไป รวมถึงการย้ายอัฐิมายังช่องบรรจุใหม่ที่ทางวัดเตรียมไว้ และทุกอย่างเป็นไปตามหลักวิชาการและพระธรรมวินัย เพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นสถานปฏิบัติธรรมของบรรพชิตและพุทธศาสนิกชนต่อไป