สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดสำหรับบริบทการเมืองไทยเวลานี้ก็คือ พรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งพรรคการเมืองขนาดใหญ่และพรรคตั้งใหม่ พยายามสร้างฐานเสียงไปยังผู้มีสิทธิ ออกเสียงเลือกตั้งที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างมาก อีกทั้งบริบทการเมืองช่วงหลังก็เห็นชัดว่า คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทการเมืองทั้งในรัฐสภา และนอกรัฐสภามากขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า มีผู้สมัครหนุ่มสาว หน้าใหม่ แกะกล่อง จำนวนไม่น้อย 1 ในนั้นก็คือ "แก้ม" น.ส.พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. (เขตบางเขน -เฉพาะแขวงอนุสาวรีย์ เขตจตุจักร - เฉพาะแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม และเขตหลักสี่ - เฉพาะแขวงตลาดบางเขน) พรรครวมไทยสร้างชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งผู้สมัครน่าจับตามอง ด้วยบุคลิกสาวมั่นแบบคนรุ่นใหม่ มาพร้อมดีกรีนักเรียนนอกเกียรตินิยม แถมหน้าตายังเข้าขั้นนางเอกได้อย่างไม่น้อยหน้าใครซะด้วย ...
มาฟังที่ไปที่มาของการตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัวภายใต้บ้านรวมไทยสร้างชาติรวมไปถึงการเปลี่ยนสายงานเอกชนมาทางสายการเมืองของ “สาวแก้ม”จะเป็นอย่างไรเชิญติดตามได้จากเจ้าตัวเอง…
"แก้มพัชรนันท์"ดีกรีการศึกษาไม่ธรรมดาเธอเรียนจบประถมศึกษาจากโรงเรียนไผทอุดมศึกษาและศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์สิงหเสนี)สายวิทย์-แพทย์จากนั้นจบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์คณะนิเทศศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษและจบ กียรตินิยมอันดับ 2ระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์คณะบริหารธุรกิจ
ในส่วนการทำงานที่ผ่านมาเธอก็มีประสบการณ์ที่ในหลายอุตสาหกรรมกับบริษัทแถวหน้าของประเทศไทยทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์สตาร์ทอัพและกิจกรรมเพื่อสังคม
เมื่อถามเธอถึงการก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง
เธอก็เล่าให้เราฟังว่า เคยทำงานอยู่เบื้องหลังทีมนโยบายและหาเสียงของ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือส.ก. มาก่อน มีโอกาสลงพื้นที่หาเสียงรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือเรื่องโควิดประสานงานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งแล้วก็ค้นพบว่าเรามีความสุขกับการทำการเมือง
วันนี้แก้มลงพื้นที่พบปะประชาชน มากกว่า 8เดือนแก้มมีความสุขมากที่ได้ลงไปพูดคุยรับฟังเสียงระบายจากพี่น้องประชาชนแก้มคิดว่าถ้าคนไม่ชอบไม่อินป่านนี้คงทิ้งไปแล้วเพราะต้องยอมรับว่าเหนื่อยมากๆ ส่ วนครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ท่านก็ให้กำลังใจ ไม่ได้ห้ามที่จะมาทำงาน การเมืองท่านมั่นใจในตัวเราว่าเราเลือกทางเดินของตัวเองได้แต่ท่านก็เป็นห่วงเพราะแก้มก็เป็นผู้หญิงท่านย่อมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเป็นธรรมดา
ทำไมถึงเป็น "รวมไทยสร้างชาติ" ?
ถ้าจะพูดถึงอายุของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรคฯแก้มคิดว่าถ้าเราไปมองแค่นั้นท่านก็ไม่ใช่คนรุ่นใหม่แต่ถ้าเรามองให้ลึกลงไปจะพบว่าคณะทำงานทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติส่วนใหญ่แล้วเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมดอย่างเช่นคุณขิงเอกนัฏพร้อมพันธ์เลขาธิการพรรคอายุก็ยังไม่ถึง 40ด้วยซ้ำไปเพราะฉะนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติ คือการผสมผสานของคนหลากหลายรุ่นไม่มีแบ่งแยกว่ารุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า
"คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันดังนั้นเมื่อหยิบข้อดีของคนแต่ละรุ่นขึ้นมาผสมกันก็จะได้สิ่งที่ลงตัวมากที่สุดเราอย่าไปมองว่าคนรุ่นเก่ามีแต่ข้อเสียเพราะคนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ในการทำงานและการใช้ชีวิตที่เหนือกว่าคนรุ่นใหม่หลายสิบ ปีซึ่งประสบการณ์ตรงนั้นจะนำมาเป็นบทเรียนให้กับคนรุ่นใหม่ได้"
ส่วนตัวแก้มไม่อยากให้คนเราตัดสิทธิกันจากภายนอกและก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องแบ่งแยกว่านี่คือคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่าแต่สิ่งที่คนไทยต้องการจากตัวแทนของพวกเขามากที่สุดก็คือการทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้งและที่ผ่านมาผลงานของนายกที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ก็เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าท่านตั้งใจทำงานมากแค่ไหน
เมื่อถามถึงกระแสความนิยมในตัวของ "บิ๊กตู่"ดูเหมือนจะไม่ดีนักผู้สมัครอย่างเธอมีความกังวลหรือไม่แก้มพัชรนันท์กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า
“เป็นธรรมดาของทุกการแข่งขันที่ต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะแต่เราก็ต้องเปลี่ยนความกังวลหรือความกลัวให้กลายเป็นความท้าทายให้ได้ในฐานะผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติสิ่งที่เราต้องทำก็คือการเป็นตัวแทนไปสร้างความเข้าใจในเรื่องนโยบายต่างๆของพรรคว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างซึ่งจากการลงพื้นที่ ที่ผ่านมาของแก้มก็ต้องยอมรับว่ามีทั้งคนชอบคนไม่ชอบและคนวางตัวนิ่งเฉยกับเราแต่เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญกับปัญหาอะไรก็ตาม”
ทั้งนี้ "แก้มพัชรนันท์ "ยังเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างการลงพื้นที่ ของเธออย่างสนุกสนานว่าในพื้นที่ มีลักษณะของความเป็นชุมชนเมืองอยู่มากแต่ก็ยังมีปัญหาอีกหลายด้านที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเช่นปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่แม้กรุงเทพจะเป็นเมืองหลวงของประเทศแต่ประชาชนบางคนก็ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างสะดวก หรือในบางครั้งก็ต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังมีความขัดแย้งทางการเมืองแบบฝังรากลึก แก้มเคยไปไปเจอมาในบางครั้งเมื่อเดินเข้าไปในพื้นที่ที่ประชาชนนิยมพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเป็นอย่างมาก ก็ เจอกับคำถามแปลกๆ เหมือนไม่ต้องการให้เราเข้าไปยังบริเวณพื้นที่ของเขา เมื่อเขาไม่สะดวกใจต้อนรับเรา เราก็ไม่เข้าแต่เราก็พยายามอธิบายว่าวันนี้แก้มมาทำอะไรมาคุยอะไรกับเขาสุดท้ายบางคนก็ยอมเปิดใจพูดคุยกับเรา
เมื่อถามถึงความกังวลกับบรรดาคู่แข่งต่างพรรครุ่นเก๋าเจ้าพ่อเจ้าแม่พื้นที่ทั้งหลาย
แก้ม กล่าวว่า จริงๆแล้วแก้มได้พูดคุยกับพี่ๆผู้สมัครต่างพรรคมาหลายคนแล่วไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลังประชารัฐได้พบปะกันในพื้นที่ก็ทักทายกันตามประสาคนทำงานในพื้นที่เดียวกัน
ถ้าถามว่ากังวลหรือไม่กับผลคะแนนแก้มขอตอบว่าไม่มีความกังวลและยัง มองว่าเราได้เปรียบในการลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้เนื่องจากเป็นคนพื้นที่เติบโตมาใน พื้นที่ตั้งแต่เด็กฉะ นั้นพื้นที่ต่างๆทั้งชุมชนตรอกซอกซอยแก้มรู้จักหมดและที่สำคัญคือแก้มรู้ถึงปัญหาของประชาชน ว่าปัญหาเรื้อรังที่เกิดในเขตที่รับผิดชอบนี้คืออะไรและประชาชนต้องการให้แก้ไขตรงไหนดังนั้นถ้าแก้มได้รับโอกาสจากประชาชนเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนในสภา
ผู้แทนราษฎรจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและตรงตามความต้องการมากที่สุด
"น้องแก้ม"ยังเล่าต่อถึงปัญหาระดับประเทศที่อยากจะเข้าไปจัดการ ที่สุดก็คือปัญหาด้านสิ่งเวดล้อมเนื่องจากเป็นปัญหาที่กระทบต่อทุกคนไม่ว่าคนนั้นจะยากดีมีจนอย่างไร เช่นปัญหาและอุปสรรคในการจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ เนื่องจากการขยายตัวของเมือง เกิดหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดใหม่จำนวนมากทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการเก็บขนรวมถึงพาหนะสำหรับขนเก็บ ไม่เพียงพอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่ ประกอบด้วยย่านธุรกิจศูนย์การค้าตลาดหมู่บ้านจัดสรรสถานที่ราชการรัฐวิสาหกิจโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็กอาคารที่พักอาศัยทั้งตึกสูงและแหล่งชุมชนแออัดปัจจัยเหล่านี้คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ในพื้นที่มีปริมาณขยะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประชาชนทั่วไปมีความรู้เรื่องการแยกขยะแต่ยังไม่มีความเชี่ยวชำนาญในการคัดแยกได้ถูกต้องและยังคงมีทัศนคติที่ว่าแยกไปก็ทิ้งรวมกันในถังเดียวหรือรถคันเดียวส่งผลให้กระบวนการคัดแยกขยะของเจ้าหน้าที่ ทํางานได้ยากทำให้การคัดแยกไม่มีประสิทธิภาพในทางกลับกันถังขยะที่ทางสำนักงานเขตจัดเตรียมให้ก็มีไม่เพียงพอไม่แข็งแรงเก็บขยะได้ไม่มิดชิดทําให้ขยะที่มีน้ำไหลออกมาส่งกลิ่นเหม็นการเก็บขนตามชุมชนที่รถขยะไม่สามารถเข้าถึงได้ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาทำงานมากขึ้นและรวมไปถึง การลักลอบทิ้งขยะในพื้นที่รกร้างต้องห้าม
"คนเรามักมองว่าปัญหาขยะไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็แค่โยนทิ้งไปแต่ปัญหาขยะกลับเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนยังไม่สามารถเข้ามาจัดการแก้ปัญหาได้จนเรื้อรังมาถึงทุกวันนี้แก้มคิดว่าเราต้องเพิ่มความตระหนักและจิตสำนึกสาธารณะให้กับคนไทยทุกคนถ้าเพียงแค่ทุกคนรับผิดชอบขยะในมือของตัวเองต่างคนต่างร่วมมือกันแก้มเชื่อว่าปัญหาตรงนี้จะสามารถแก้ไขได้"
นอกจากนั้นแล้วแก้มมองเห็นศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพระดับโลก ที่สามารถดึงดูดชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามารักษาตัวควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเป็น Medical and Wellness Tourism (การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ) เพราะประเทศไทยมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหลายสาขาและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองระดับสากลซึ่งหากพูดถึงพื้นที่หลักสี่-บางเขน-จตุจักรตรงนี้มีข้อได้เปรียบคือมีสถานพยาบาลชั้นนำระดับประเทศทั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์โรงพยาบาลซีจีเอชโรงพยาบาลเปาโลเกษตรอยู่ไกลจาก สนามบินดอนเมืองซึ่งสามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบายนำมาซึ่งการสร้าง รายได้เข้าสู่ประเทศและประชาชนได้
เมื่อถามถึงการวางบทบาทของตัวเองหากได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนจนสามารถเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรได้แก้มเล่าว่าได้มีโอกาสติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาโดยตลอด และก็ได้เห็นปัญหาสภาล่มอยู่บ่อยครั้งเช่นกันแก้มตั้งใจเลยว่าถ้าได้รับโอกาสเข้าไปทำงานแก้มจะทำให้เต็มที่ไม่ให้สิ้นเปลืองภาษีของประชาชนอย่างเด็ดขาด
นักการเมือง"หิวแสง"ในความคิดของแก้ม ?
คำว่า "หิวแสง"ส่วนตัวแก้มไม่ได้มันมีความหมายที่ไม่ดีถ้าการหิวแสงส่งผลให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติก็ถือว่าว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่ถ้าพฤติกรรมหิวแสงมีเป้าหมายทำไปเพื่อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องเท่านั้นคนแบบนี้ก็ไม่น่าเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชน
"แก้มพัชรนันท์"คือคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจเข้าถึงปัญหาได้ง่ายสามารถเข้ากับผู้ใหญ่ในทุกช่วงอายุได้เป็นอย่างดีรวมถึงบุคลิกที่จริงใจพูดตรงตรงและพร้อมชนกับทุกปัญหาที่เธอมองว่าไม่ถูกต้องผู้สมัครหน้าใหม่คนนี้มีอีกหลายเรื่องราวอีกหลายมิติให้เราเข้าไปค้นหาและน่ามีจุดเด่นที่สามารถเข้าไปครอง ใจประชาชนเขตบางเขนเขตจตุจักรและเขตหลักสี่ ได้ไม่มากก็น้อย
