"ศ.ดร.นฤมล” ชี้ผลแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.ใหม่ กระทบบางพื้นที่พปชร.เตรียมรับมือจัดสรรผู้สมัครลงทุกเขต ลั่นตั้งเป้าให้ได้มากกว่าเดิม 12 ที่นั่ง
วันนี้ (16มี.ค.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผย ถึงการเตรียมประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)ว่า ทางพรรคพลังประชารัฐได้รับแจ้งมาอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งทาง กกต.ได้มีการประชุมการกำหนดเขตในพื้นที่ กทม.แล้วในวันนี้ ซึ่งก็น่าจะมีผลกระทบบ้างในบางพื้นที่ ที่อาจจะมีการขยับขึ้นลง ของจำนวน ส.ส. แต่ก็เป็นแค่ในบางพื้นที่ ไม่ใช่ทุกเขต โดยช่วงที่ผ่านมาเราก็เตรียมรับมือกับสถานการณ์เอาไว้อยู่แล้ว และผู้สมัครของเรามีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้พูดคุยกับคุณสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.กันอยู่ว่าจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งก็น่าจะทราบความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ในส่วนการเปิดเวทีปราศรัยในวันเสาร์ที่ 18 มี.ค.นี้ ก็จะมีการแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 ท่าน และทางผู้บริหารของพรรคหลายคนก็จะขึ้นปราศรัยพูดคุยทำความเข้าใจกับชาว กทม. และในอนาคตก็จะมีการเปิดเวทีย่อยให้กับว่าที่ผู้สมัครของเราได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อไป
"เราตั้งเป้าอยากได้ ส.ส.กทม.มากกว่าเดิม ก็คือ 12 ที่นั่งขึ้นไป แต่ก็เชื่อว่าทุกเขตมีการแข่งขันสูงอทุกพรรคการเมืองก็มีการทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ ไม่มีพรรคการเมืองใดหย่อนมือแน่นอน เพราะถ้าได้ลงแล้วก็ต้องสู้ทุกเขต"
เมื่อถามถึงกำหนดการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ก็คงจะต้องมีการจัดตารางกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะในแต่ละพื้นที่ก็มีความต้องการให้ท่านหัวหน้าพรรคลงไปช่วยหาเสียงและเป็นกำลังใจให้ หลายพื้นที่มาก ๆ อย่างเช่นในช่วงสัปดาห์นี้ตารางการลงพื้นที่ของท่านก็เต็มแน่น
เมื่อถามถึงนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐ หมายถึง พร้อมจับมือกับทุกพรรคการเมืองงหลังการเลือกตั้งหรือไม่ ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐของเราทำการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เราเคารพเสียงส่วนใหญ่ในสภา และการจับมือเพื่อร่วมทำงานด้วยกัน ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องอุดมการณ์ที่ต้องตรงกันด้วย
ด้าน น.ส.สุชาดา เวสารัชตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง กล่าวว่า เขตดอนเมือง ถือเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีความชัดเจนในเรื่องการแบ่งเขตแล้ว ซึ่งจากที่ตนลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำนโยบายการก้าวข้ามความขัดแย้งไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะประชาชนก็ไม่มีใครอยากจะทะเลาะกันแล้ว อยากจะจับมือกันเดินหน้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป