รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.อนุมัติให้กรมควบคุมโรคนำวัคซีนโควิด-19 ฉีดให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ และให้ค่าวัคซีนนำส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดิน
วันนี้ (14 มี.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้ พระราชกำหนดเงินกู้ฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ให้กรมควบคุมโรคเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ซึ่งเป็นสาระสำคัญของโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทยจำนวน 60 ล้านโดส (AstraZeneca) ปี พ.ศ. 2565 โดยการปรับลดราคาวัคซีนตามโครงการเหลือ 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส ส่งผลให้วงเงินตามโครงการลดลงเหลือ 18,382.46 ล้านบาท (เดิม 18,639.10 ล้านบาท) และปรับเพิ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการด้วย
รวมถึงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชากรในประเทศไทยจำนวน 30 ล้านโดส (Pfizer) ปี พ.ศ. 2565 โดยปรับเพิ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการ และขยายระยะเวลาดำเนินโครงการจากสิ้นสุด ธ.ค. 65 เป็น ก.ย. 66
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ครม. ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคซึ่งเป็นหน่วยงานดำเนินทั้ง 2 โครงการ นำส่งรายได้จากการให้บริการวัคซีนแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เฉพาะส่วนของค่าวัคซีนโควิด-19 เป็นรายได้แผ่นดินภายใต้ระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาช่วยชำระคืนเงินกู้ ซึ่งจะช่วยลดภาระงบประมาณในการชำระหนี้ของภาครัฐได้ต่อไป และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการประชาสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งบริการจัดการวัคซีนให้เกิดการใช้ประโยชน์คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด