วันนี้ (5 มี.ค.) นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบาย “กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป” ว่า ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้มีโอกาสลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชน เพื่อที่จะไปรับฟังถึงปัญหาของกลุ่มต่างๆ ซึ่งกลุ่มหนึ่งที่เราได้ไปพบปะพูดคุยเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือ กลุ่มของผู้สูงอายุ ที่ต่างก็มีความกังวลว่า ในวันที่ไม่สามารถทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ จะเป็นเหมือนภาระของลูกหลาน
“ต้องยอมรับว่า วันนี้สังคมไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2565 มีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในประเทศไทยถึง 12.5 ล้านคน และจะทยอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นสิ่งที่ท้าทารัฐบาลในสมัยหน้า ที่จะต้องออกแนวทางนโยบายว่า จะดูแลผู้สูงอายุ และต้อนรับสังคมผู้สูงอายุ ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้อย่างไร” นายภราดร กล่าว
นายภราดร กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทย จึงออกเป็นนโยบาย คือ กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป ที่จะเป็นสวัสดิการใหม่ สำหรับพี่น้องประชาชนไทยทุกคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่จะได้รับสิทธิทันทีโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องสมัครและไม่เสียค่าใช้จ่าย และที่สำคัญ คือ ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต
นี่คือ นโยบายใหม่ที่พรรคภูมิใจไทย ได้คิดขึ้นมา หลังจากที่ได้ไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน เนื้อหาสาระของกองทุนประกันชีวิตคือ ในวันที่ยังมีชีวิตอยู่ ผู้สูงอายุจะต้องไม่เป็นภาระให้กับลูกหลาน และจะมีสิทธิกู้เงินเพื่อดูแลตัวเอง หรือประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ใช้กรมธรรม์ที่รัฐบาลจะมาทำให้เป็นหลักประกันในการค้ำประกันตัวเอง จนถึงวันที่เขาจากไป ผู้สูงอายุนอกจากจะไม่เป็นภาระให้กับลูกหลานแล้วทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลานให้กับทายาทและครอบครัวรายละ 1 แสนบาท
“พรรคภูมิใจไทย จะดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ตราบจนสิ้นลมหายใจผู้สูงอายุจะต้องไม่ใช่ภาระของลูกหลานผู้สูงอายุจะต้องไม่ใช่ภาระของครอบครัวผู้สูงอายุจะต้องเป็นผู้มีพระคุณให้กับลูกหลาน และเป็นผู้มีพระคุณให้กับแผ่นดิน” นายภราดร ระบุ