สภาตั้ง คกก.สอบ “ส.ส.” เล่นพนันในสภา ชี้ หากพบผิดจริงต้องถูกดำเนินคดีตาม กม.- ประมวลจริยธรรมฯ ต่อ “นิกร” รับอาจไม่ทันสมัยนี้ เหตุเรื่องยังไม่ถึง คกก.จริยธรรมฯ แต่หากกลับมาเป็น ส.ส.อีก ยื่นซ้ำได้ พร้อมชี้ช่องยื่นหน่วยงานอื่น
วันนี้ (3 มี.ค.) ว่าที่ ร.ต.ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการสภา ชี้แจงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ส.ส. กรณีพบการเล่นการพนันในพื้นที่อาคารรัฐสภาบริเวณห้องทำงานของ ส.ส. ว่า ในการเข้าใช้ห้องทำงานของ ส.ส. จะเป็นไปตามประกาศสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง แนวทางการใช้งานห้องต่างๆ ภายในอาคารรัฐสภา พ.ศ. 2564 ข้อ 3(3) โดยกำหนดให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดให้มีห้องทำงานของ ส.ส. ตามความเหมาะสม ซึ่งสำนักงานฯ ได้ดำเนินการตามประกาศดังกล่าว และได้ส่งมอบห้องทำงานพร้อมกุญแจให้แก่ ส.ส. ซึ่งสำนักงานฯ มีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้ห้องทำงานสามารถใช้งานได้ตามปกติ หากมีความชำรุดบกพร่องเกิดขึ้น
โฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการสภา กล่าวว่า ในการเข้าใช้ห้องทำงานของ ส.ส. ยังมีระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ. 2565 เกี่ยวกับข้อปฏิบัติทั่วไปในการใช้พื้นที่และอาคารรัฐสภา ข้อ 8 (2) ที่ห้ามมิให้มีการกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดี ดังนั้น เมื่อปรากฏตามข้อร้องเรียนว่า มี ส.ส. เล่นการพนันภายในพื้นที่รัฐสภา ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 อันเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา และฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ ส.ส. และกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ที่กำหนดให้สมาชิกฯ ต้องรักษาไว้และปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่กระทำการใดๆ อันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของประเทศชาติและสภา
“สำนักงานฯ จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ หากผลการสืบสวนพบว่า มีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง ก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ระเบียบ และประมวลจริยธรรมฯ ที่เกี่ยวข้องต่อไป” ว่าที่ ร.ต.ยุทธนา กล่าว
ด้าน นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ส.ส.พรรคเก่าแก่กับพวก กำลังเล่นการพนันกันบริเวณ ชั้น 5 อาคารัฐสภา (ห้องทำงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการนำประเด็นนี้เข้าสู่คณะกรรมการจริยธรรมฯ ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อมีผู้ร้องต้องส่งเรื่องให้อนุกรรมการกลั่นกรองตรวจสอบ เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะรับเรื่องไว้พิจารณาวาามีมูลหรือไม่ จึงมาเสนอต่อคณะกรรมการจริยธรรมฯ เพื่อพิจารณาว่าจะมีมติความเห็นอย่างไร โดยวันที่ 8 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น. คณะกรรมการจริยธรรมฯ จะมีการประชุมเรื่องที่ได้ผ่านการพิจารณาแล้วหรือพิจารณาใหม่ที่ผ่านอนุคณะกรรมการกลั่นกรองแล้วด้วย ฉะนั้น คาดว่า เรื่องนี้อาจจะเข้าไม่ทันสภาชุดนี้ เพราะยังไม่ผ่านอนุคณะกรรมการกลั่นกรองตามระเบียบ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะมีการยุบสภาเมื่อไร
เมื่อถามว่า เมื่อมีสภาชุดใหม่เข้ามา และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรมชุดใหม่ จะสามารถหยิบเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาได้หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า เมื่อสภาหมดอายุ คณะกรรมการจริยธรรมฯ และอนุคณะกรรมการกลั่นกรอง ต้องสิ้นสภาพด้วย หาก ส.ส. รายนี้ กลับเข้ามาเป็น ส.ส. อีกครั้ง ผู้ร้องก็สามารถยื่นเรื่องอีกครั้งได้เพื่อพิจารณากันใหม่ นอกจากนี้ ผู้ร้องยังสามารถยื่นไปยังหน่วยงานอื่นๆ เพื่อแจ้งข้อหาความผิดได้ด้วย
