แกนนำปชป. ยอมรับพรรควิกฤตหนักสุด มีคนเจตนาทำลายพรรค รับการตลาดเป็นรองทำโพล "จุรินทร์" ในภาคใต้ตกเพราะเจียมตัวไม่ประกาศพร้อมนั่งนายกฯตั้งแต่ต้น แต่มั่นใจได้ที่นั่ง ส.ส.กทม.-ใต้ เพิ่ม
วันนี้ (1มี.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าว ถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ประกาศเทียบเชิญอดีต 3 หัวหน้าพรรคมาร่วมสู้ศึกเลือกตั้งว่า ได้คุยรายละเอียดคร่าวๆแล้ว แต่มองว่าเป็นปกติประเพณีของพรรค ว่าทุกครั้งที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งคนทุกรุ่นจะมาช่วยกัน ข้อบังคับพรรคเองก็เขียนไว้ชัดเจนว่าสมาชิกมีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมคิดว่านายจุรินทร์ตั้งใจประกาศความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ สืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองมาเป็นทอดๆ และให้คนทั้งประเทศรู้ว่าประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนคนทุกรุ่น
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เลือดเก่าไหลออกไปมากแต่เลือดใหม่ที่ไหลเข้ามาจะเพียงพอที่จะรักษาความเป็นสถาบันของพรรคให้แข็งแกร่ง ได้หรือไม่ นายบัญญัติ ยอมรับว่า วิกฤตครั้งนี้แรงกว่าทุกครั้ง แม้เรื่องเลือดไหลออก ไม่ใช่เรื่องใหม่ของประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ตนอยู่พรรคมา 50 ปี มีเลือดไหลออกหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ที้ทำให้แฟนคลับอาจกังวลเพราะไหลไม่จบ เพราะออกไปแล้วไม่จบกลับมาชักชวนคนที่อยู่ให้ออกไปด้วยเป็นระยะ จะ ด้วยสัมพันธ์ส่วนบุคคล หรือ เป็นเจตนาที่จะใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการใช้ทำลายความเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ จึงทำให้กองเชียร์ของพรรคหวั่นไหว แต่เชื่อว่าอีก 1-2 สัปดาห์ทุกอย่างก็จะจบ
เมื่อถามถึงสนามเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องสู้กับคนคุ้นเคยนายบัญญัติกล่าวว่า ตรงนี้ไม่ค่อยดี แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อเกิดแล้วก็ต้องแก้ปัญหากันไป และไม่ใช่ ครั้งแรกเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ปรากฏว่าคนที่ออกไปท้ายที่สุดก็ไปไม่ไหวหลายพรรคก็หายไปแต่ประชาธิปัตย์ยังคงอยู่ครั้งนี้ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
นายบัญญัติยังมั่นใจว่าเสียงตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ของคนใต้ ดีขึ้น โดยการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่พรรคเสียที่นั่งไปมากเพราะสถานการณ์พิเศษ คนกลัวระบอบทักษิณ มาก เมื่อแกนนำพรรคลงพื้นที่หาเสียง ชาวบ้านพูดกับเราตรงๆว่าขอเลือกทหารเพื่อไปปราบระบอบทักษิณ
นายบัญญัติมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่งส.ส.มากกว่าเดิม ทั้ง กทม. และภาคใต้ แม้ว่าในพื้นที่ภาคใต้ หลายพรรคเตรียมไปแย่งเสียง ช่วงชิงคะแนนเสียงกันมากขึ้นเสียงจะแตกไม่เป็นกอบเป็นกำ แต่พื้นฐานเดิมของพรรคแข็งแรงมากกว่า จึงคิดว่าเราจะได้เพิ่มในหลายพื้นที่ที่เราเสียไป
ส่วนผลสำรวจความเห็นของคนในภาคใต้ที่นายจุรินทร์ไม่ได้ติดอันดับต้นๆ นั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าในด้านการตลาดเราเป็นรอง การที่เราเจียมเนื้อเจียมตัวไม่ประกาศตั้งแต่ต้นว่าหัวหน้าพรรคเราพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในเวลาที่โพลเขาถามว่าใครเหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี และจนถึงตอนนี้เราไม่ได้พยายามถึงขนาดทะเยอทะยานจะเป็นนายกฯให้ได้ แต่พยายามเปรียบเทียบให้ชาวบ้านได้เห็นว่าคุณสมบัติของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติประกอบด้วยอะไรบ้า งเพื่อให้ชาวบ้านเห็นว่าระหว่างคนของเรากับคนหลายพรรค ที่ บางคนอาจไม่อยู่ในวิสัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เมื่อเปรียบเทียบแล้วทำให้เรามั่นใจว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ไม่น่าจะเสียเปรียบใครอะไรเลย น่าจะมีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าใครด้วย และมั่นใจว่านายจุรินทร์จะนำพาประชาธิปัตย์กลับมาสู่ยุคเฟื่องฟูได้และถือว่าที่ผ่านมา นายจุรินทร์ทำงานหนัก และประสบความสำเร็จ แต่นายจุรินทร์มีข้อเสียคือการคร่ำเคร่งกับงานมากเกินไปไม่มีเวลาทำให้คนเห็นภาวะความเป็นจริงมากนัก และจากพฤติกรรมก้มหน้าก้มตาทำงานไม่สุงสิงกับใครก็เกิดมุกใหม่ ว่านายจุรินทร์เป็นคนที่มีไม่ค่อยเสน่ห์
นายบัญญัติ ยังยอมรับเสียงวิจารณ์ที่ว่านายจุรินทร์ไม่สามารถดึงคนในพรรคไว้ได้ซึ่งอาจเป็นเพราะความเคร่งเครียด ของนักการเมืองที่มุ่งมั่นทำงานให้ประสบความ สำเร็จไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจ แต่น่าชื่นชมและช่วงหลังนี้เข้าใจมากขึ้นความร่วมมือในพรรคก็มีมากขึ้น