xs
xsm
sm
md
lg

“ประสิทธิ์ชัย” เตือน “ชูวิทย์” อย่าโง่แล้วอวดฉลาด พ่นน้ำลายสนุกปากเรื่องกัญชาทำคนเข้าใจผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ประสิทธิ์ชัย” ซัด “ชูวิทย์” อย่าอวดฉลาดพ่นน้ำลาย แค่ประเภทกัญชายังแยกแยะไม่ออก แถมโชว์โง่บอกว่ากัญชาชาวบ้านปลูกเองใช้ทางการแพทย์ไม่ได้ เตือนอย่าคิดว่าเด่นดังแล้วเปิดโปงนั่นนี่แบบสนุกปาก โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง ถ้าไม่โง่ควรจะคิดออก ว่า ถ้าสภาไม่เล่นเกมแล้วผ่าน พ.ร.บ.กัญชา ประเทศนี้จะมีกฎหมายควบคุมออกมาแล้ว เชื่อ “ชูวิทย์” ไม่ใช่คนสุดท้ายที่จะออกมาเล่นงานกัญชา เพราะมูลค่าตลาดยาแผนปัจจุบันหลายแสนล้านบาทต่อปี

เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ประสิทธิ์ชัย หนูนวล กรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กโจมตีนโยบายปลดล็อกกัญชาในประเด็นต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ถึง ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ‘อย่าอวดฉลาด’ จนสร้างความเข้าใจผิดเพี้ยนต่อกัญชา อ่านโพสต์ของชูวิทย์เกี่ยวกับกัญชาแล้วมี 4 ประเด็นที่ผมติดใจ

1. ทำไทยเป็นศูนย์กลางยาเสพติดของโลก

กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด กัญชาคือพืชพื้นเมือง ชูวิทย์ อยู่ในแวดวงอบายมุขมานาน น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี ว่า กัญชามันไม่ติด แต่ก่อนอื่น คุณชูวิทย์ ต้องแยกแยะให้ออกก่อนว่า อันไหนกัญชาสังเคราะห์ กัญชาอัดแท่ง กัญชาธรรมชาติ ในส่วนของกัญชาที่ปลูกธรรมชาตินั้น ยังมีหลายลักษณะ เช่น ใช้เคมีหรืออินทรีย์ เพราะกัญชาที่อัดแท่งหรือกัญชาสังเคราะห์มันอันตรายเพราะมันมีสารเคมี ถ้าเป็นกัญชาธรรมชาติ มันคือดอกไม้ที่เป็นยา มันไม่มีลักษณะเสพจนติดแล้วเลิกไม่ได้หรือถ้าจะเลิกต้องเจ็บปวดทรมาน

กัญชาธรรมชาติไม่เป็นแบบนั้น ฉะนั้น ถ้าจะตัดสินว่ากัญชาเป็นยาเสพติดแยกแยะกัญชาให้ออกก่อน แล้วหากใช้กัญชาร่วมกับยาเสพติดอย่างอื่นมันย่อมเพี้ยนไปคนละโลก ถ้าชูวิทย์ยังโง่แยกแยะประเภทกัญชาไม่ออกก็อย่ามาพ่นน้ำลายอวดฉลาด ถ้าแยกแยะออกแล้วก็เลิกพ่นน้ำลายว่ากัญชาจะทำไทยเป็นศูนย์กลางยาเสพติดโลก

2. บุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชาอะไรน่ากลัวกว่ากัน

มีผลงานวิจัยระบุอย่างชัดเจนว่า กัญชามีฤทธิ์เสพติดน้อยกว่ากาแฟ งานวิจัยนี้ตรงกับความจริงคนใช้กัญชาจะรู้ ส่วนพวกไม่เคยใช้นั้นอวดฉลาดและทำเป็นรู้ดี ลองเอางานวิจัยคนสูบบุหรี่มาดูว่าพวกเขาเจอโรคอะไรบ้าง แล้วมาดูคนสูบกัญชาว่าเจอโรคอะไรบ้าง ถ้าอยากพิสูจน์เอาแบบนี้ไหมชูวิทย์ หาคนสูบบุหรี่มาสิบปีจำนวน 10 คน แล้วหาคนสูบกัญชามาสิบปีจำนวนเท่ากัน แล้วมาตรวจสุขภาพปอดหรือสุขภาพอื่นๆ มาดูว่าใครหายนะ ใครสุขภาพดี ถ้าเก่งจริงก็จงรับคำท้า อย่าเพียงทำตัวอวดเบ่งเสียงดัง ขึงขัง ใส่ร้ายกัญชา

3. ปลูกกัญชาในบ้านไม่มีใครเอาไว้รักษาโรค เพราะการปลูกกัญชาทางการแพทย์มีวิธีการปลูกที่แตกต่างกันมากส่วนใหญ่เอาไว้พี้เองหรือขายให้เด็ก

ชูวิทย์ครับ คุณโง่มาก คราวหน้าอย่าอวดฉลาดทุกเรื่อง อย่าหลงเอาความดีจากการทำดีในครั้งก่อนมาอวดเบ่งเพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเอง เพื่อให้สังคมเชื่อว่าทุกเรื่องที่ทำนั้นถูกต้องหมด

คำถามที่อยากถามชูวิทย์ คือ เคยปลูกกัญชาไหม ที่มาอวดดีบอกว่ากัญชาที่ประชาชนปลูกไม่ใช่วิธีปลูกที่จะใช้ทางการแพทย์ได้ ถ้าชูวิทย์เคยปลูกกัญชาแล้วใช้รักษาไม่ได้จะบอกว่าโคตรกระจอกวะ ถ้าไม่เคยปลูกก็หยุดพ่นน้ำลายก่อน ศึกษาหาความรู้ก่อน

กัญชาทางการแพทย์ต้องปลูกโดยบริษัทใหญ่ใช่ไหมจึงจะมีมาตรฐาน ต้องใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงใช่ไหม จึงจะถือว่า เป็นวิธีทางการแพทย์ ต้องเป็นบริษัทยาเท่านั้นใช่ไหมที่ปลูกกัญชาแล้วถือเป็นกัญชาทางการแพทย์ ประชาชนปลูกเรียกการแพทย์ไม่ได้

การปลูกกัญชาที่ดี คือ การปลูกโดยปุ๋ยธรรมชาติ คนแต่ละคนปลูกกัญชาย่อมต้องใช้สิ่งดี เพราะปลูกให้ตัวเองใช้ กัญชาที่ดีสำหรับใช้ในการรักษาคือกัญชาที่ปลูกเอง ปรุงเอง ปลอดภัยที่สุด และนี่คือ กัญชาทางการแพทย์ที่ปลอดภัยที่สุด

แล้วยังมาบอกว่า คนที่ปลูกกัญชานั้นส่วนใหญ่ใช้พี้และขายให้เด็ก ข้อสรุปนี้มักง่ายวะ เอาอะไรมาตัดสินคนอื่น เอะอะอะไรก็เอาเด็กเป็นตัวประกัน ยาบ้าที่ติดกันเกลื่อนเมืองเงียบเป็นเป่าสาก เพราะคนค้ายาบ้ารายใหญ่คือผู้มีอำนาจในประเทศนี้ เมื่อมีเจ้าใหญ่แน่นอนแล้วในตลาดยาบ้าทุกอย่างก็นิ่งสนิท ทุกองคาพยพก็ช่วยกันขายยาบ้า ที่จับกันไม่หมดเสียเพราะคนที่มีอำนาจจัดการเป็นกลไกการค้ายาบ้าเสียเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกองคาพยพจึงปิดบากสนิทเรื่องยาบ้า

ทำไมปิดปากสนิทเรื่องยาบ้าละชูวิทย์

ถ้าเป็นห่วงเยาวชนจริง ไม่ใช่เอาเยาวชนมาเป็นตัวประกันเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงของกัญชา ก็จงจัดการกับปัญหาที่สำคัญคือยาบ้า

4. คนซื้อจะมีถึง 10 เปอร์เซ็นต์ไหม ที่เอาไปใช้ทางการแพทย์ เพราะอีก 90 เปอร์เซ็นต์ เอาไปพี้ ถ้าเป็นทางการแพทย์จริงทำไมไม่ขายในโรงพยาบาลและให้หมอออกใบสั่งยามาให้

นี่คือวิธีคิดของวัฒนธรรมอำนาจ คือ ใช้ชีวิตกูเป็นใหญ่ แล้วใช้มาตรฐานชีวิตตัวเองตัดสินผู้อื่น อำนาจที่ว่าคืออะไรครับ คืออำนาจของความรู้ที่ทำหน้าที่ชี้นำ พอพูดถึงกัญชาทางการแพทย์ก็ต้องให้แพทย์จ่าย ถามจริงเถอะชูวิทย์ เวลาจะกินข้าวแต่ละเมื้อต้องให้แพทย์สั่งใหม จึงจะถือว่าอาหารเมื้อนั้นมีประโยชน์ ทำไมเอาสิทธิในเรือนร่างไปให้คนจำพวกเดียวมีสิทธิในการวินิจฉัยว่าจะรักษาอย่างไร

คนที่ภาคใต้ใช้กัญชารักษาตัวเองมานาน คนในชนบทย่อมใกล้ชิดธรรมชาติ อาหารและยาคือสิ่งเดียวกัน ไม่ใช่พวกอยู่กับตึกคอนกรีต เวลาป่วยก็รับยาจาก รพ.เท่านั้น การรักษาแบบอื่นไม่ใช่การรักษา

ในชนบทเขาไม่ต้องให้แพทย์สั่ง เขาทำยารักษากันมาเป็น 100 ปี อย่าคิดว่าโลกของตัวเองคือจักรวาล

อย่าคิดว่าเด่นดัง เปิดโปงนั่นนี่ แบบสนุกปาก ไม่สนใจข้อเท็จจริง หรือ มีความรู้แค่หางอึ่ง แต่พองตัวเท่าช้าง ถ้าไม่โง่นี่ชูวิทย์ ควรจะคิดให้ออกว่า ถ้าวันนี้สภาผู้แทนไม่เล่นการเมืองแล้วผ่าน พ.ร.บ.กัญชา ประเทศนี้จะมีกฎหมายควบคุม ขอเตือนชูวิทย์ว่า อย่าแฝงนัยอื่น ทั้งการเมือง ผลประโยชน์ หรือรับใช้ใคร แล้วมาสร้างความเท็จทำให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิกัญชาไม่ได้

หากเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าคนข้างหลังคุณจะใหญ่แค่ไหน ประชาชนจะเดินหน้าไปจนกว่าประชาชนจะมีสิทธิในการใช้พืชกัญชา

ชูวิทย์ ไม่ใช่คนสุดท้ายที่จะออกมาเล่นกัญชา โปรดรอเดี๋ยวจะตามมาอีก

อย่าลืมว่า บริษัทยาแผนปัจจุบันในประเทศไทย มีมูลค่าต่อปีหลายแสนล้านบาท เมื่อประชาชนเข้าถึงกัญชา รายได้ของบริษัทยาจะลดลง เรื่องนี้ปรากฏผลชัดเจนจากงานวิจัยในรัฐที่เปิดให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาในสหรัฐอเมริกา และเพื่อรักษามูลค่าทางการตลาด บริษัทยาจะทุ่มสุดตัว

ยังไม่นับเรื่องการเมืองที่หลายพรรคสามัคคีชุมนุมโจมตีกัญชาเพื่อให้ส่งผลถึงพรรคภูมิใจไทย

ฉะนั้น ชูวิทย์ ไม่ใช่คนสุดท้ายที่จะมาใส่ร้ายกัญชา และกำลังรอว่าใครจะเป็นรายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น