“กรณ์” เปิดตัว "ยีแอ-อิสมาแอล” อดีต ส.ส.ปัตตานี 3 สมัย สวมเสื้อชาติพัฒนากล้า มั่นใจปักธงได้แน่นอน ส่งหนึ่งเดียวในชายแดนใต้ ชูนโยบายดันปัตตานีเป็นเศรษฐกิจเฉดสีเขียว
เมื่อวันที่ (27 กุมภาพันธ์ 2566) พรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย พล.ต.ธชา จินตวร ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค และคณะ เดินทางไปยัง จ.ปัตตานี เพื่อประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำ จ.ปัตตานี และเปิดตัว ดร.อิสมาแอล เบญอิบรอฮีม อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ 3 สมัย เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ปัตตานี พรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมทั้งพบปะพี่น้องประชาชน ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก
นายกรณ์ กล่าวว่า ตนและดร.อิสมาแอล รู้จักกันมานาน เริ่มเป็น ส.ส.พร้อมกันคือ เมื่อปี 2548 และฝ่ากระแสการเมืองชนะเลือกตั้ง เป็น ส.ส.มาถึง 3 สมัย เป็นว่าที่ผู้สมัครที่มีศักยภาพ และเป็นคนเดียวที่เราตัดสินใจส่งผู้สมัครในเขต 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งตนมั่นใจว่า ยีแอ หรือ ดร.อิสมาแอล จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายของพรรคเพื่อแก้ปัญหาความยากจน สร้างโอกาสให้พี่น้องชาวปัตตานีได้ และยังเชื่อมั่นว่านายอิสมาแอล การเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะสามารถชนะเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า นโยบายที่พรรคจะผลักดันใน จ.ปัตตานีคือ เศรษฐกิจเฉดสีเขียว ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อโลกร้อน ที่เราจะต้องปรับตัวครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกระบวนการผลิตสินค้าส่งออก ต้องไม่เพิ่มคาร์บอน ทั้งนี้เพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน นอกจากนี้ยังต้องมีการลงทุนครั้งใหญ่ในด้านการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมพลังงาน สนับสนนสนุนการใช้พลังงานทดแทน ปรับปรุงทางด้านการคมนาคม โลจิสติกส์ เพิ่มพื้นที่สีเขียว
ด้านนายอิสมาแอล กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกพรรคชาติพัฒนากล้าว่า ตนตั้งใจมาตั้งแต่นายกรณ์ออกจากพรรคการเมืองเก่าเพื่อมาตั้งพรรคใหม่ จนกระทั่งเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า ความคิดตนก็ไม่เคยเปลี่ยน และด้วยความเป็นคนพื้นที่ เป็นอดีต ส.ส. 3 สมัย เชื่อมั่นว่าสู้ได้อย่างแน่นอน และพร้อมที่จะผลักดันโนบายของพรรคเพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้กับชาว จ.ปัตตานี
นอกจากนี้ โดยส่วนตัวยังสนใจเศรษฐกิจเฉดสีขาว หรือเศรษฐกิจสายมู เพราะ จ.ปัตตานี เป็นจังหวัดเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 500 มีสถานที่เก่าแก่มากมาย ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องชาวมุสลิม ที่จะสามารถโปรโมทเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรณ์ พร้อมด้วยนายอิสมาแอล ได้เดินทางพบปะพี่น้องประชาชน อ.หนองจิก ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง และพร้อมให้การสนับสนุนให้ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย