"เฉลิมชัย" นำทีมปชป.เปิด 14 ผู้สมัครส.ส.กทม.รุ่นใหม่ อ้อนคนกรุงฯเลือกคนสุจริต ส่ง “เอิร์ธ ลูกอัศวิน” ลงคลองเตย-วัฒนา แจงซบเพราะความเป็นสถาบันการเมือง หวังขับเคลื่อนแก้ปัญหาชาวบ้านให้สำเร็จ เผยถูกหลายพรรคทาบ ระบุแม้อยู่คนละพรรคกับพ่อแต่ไม่มีปัญหา
เมื่อวันที่ (27 ก.พ.) เวลา 13.40 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคปชป. รับผิดชอบกรุงเทพมหานคร เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่เป็นคนรุ่นใหม่ จำนวน 14 คน โดยนายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้พรรคถือโอกาสเปิดตัวคนรุ่นใหม่ในครั้งนี้ พรรคมีการเปลี่ยนแปลงได้เปิดรับคนรุ่นใหม่ให้มีบทบาท มีพื้นที่แสดงความคิดเห็นในทางการเมือง นี่คือก้าวหนึ่งแห่งพัฒนาการ โดยพรรคจะสร้างพวกเขาเหล่านี้เป็นผู้นำในอนาคต ตนขอฝากประชาชนพิจารณาผู้สมัครของเราด้วย ปชป.มีทั้งผู้อาวุโสมากประสบการณ์ และพร้อมสร้างเลือดใหม่นำพาพรรคไปข้างหน้า สี่ร้อยเขต พรรคมีผู้สมัครรุ่นใหม่เป็นร้อยเขต แต่วันนี้ขอเปิดคนรุ่นใหม่ในพื้นที่กทม. สิบสี่คนก่อน ตนขอให้คำมั่นสัญญาว่าคนรุ่นใหม่ของพรรคทุกคนมีอุดมการณ์แน่วแน่มั่นคง พร้อมทำให้งานให้กับประชาชน
“วันนี้เพียงแค่ออเดิร์ฟ วันที่ 6 มีนาคม จะเปิดผู้สมัครส.ส.กทม. ทั้ง 33 คน ที่อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานร ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ให้เห็นว่าพรรคผสมผสานคนทุกรุ่น ที่ผ่านมาเลือกผู้นำที่เก่งกล้า เข้มแข็งผ่านมาสิบๆปี ประเทศไทยยังอยู่ที่เดิม ดังนั้นขอให้เลือกคนซื่อสัตย์สุจริต” นายเฉลิมชัย กล่าว
จากนั้น ได้มีการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.กทม. ที่เป็นคนรุ่นใหม่ จำนวน 14 คน โดยไฮไลท์อยู่ที่ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้สมัครส.ส. เขตคลองเตย-วัฒนา ซึ่งเป็นบุตรชายของพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯกทม. ที่ขณะนี้สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ นอกจากนี้ ยังมีนายอภิมุข ฉันทวนิชย์ เขตยานนาวา-บางคอแหลม อดีต ส.ก.3สมัย บุตรชายของนายสมเกียรติ์ ฉัทวนิชย์ อดีตส.ส.ปชป. นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ เขตบางซื่อ-ดุสิต เหลนของนายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกฯและผู้ก่อตั้งปชป. น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ เขตบางบอน-หนองแขม น้องสะใภ้ของนายสากล ม่วงศิริ อดีตส.ส.กทม.
รวมทั้งมีอดีตผู้สมัครส.ส. จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อาทิ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร เขตราชเทวี นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ เขตดอนเมือง นายจักรวี วิสุทธิผล เขตสวนหลวง-ประเวศ ซึ่งย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ และยังมี 3 กัปตันขับเครื่องบิน ได้แก่ นายภูเบศร์ นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) เขตบึ่งกุ่ม นายวัทธิกร หรุ่นศิริ เขตสายไหม และมีนายธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ วิทย์ เขตจตุจักร นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย
ร.ต.อ.พงศกร ยังให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจมาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนอยากทำงานการเมืองเพื่อผลักดันนโยบายผ่านพรรคการเมืองที่มีความเข้าใจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และมีความผูกพันกับกทม. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีสิ่งเหล่านี้มาอย่างยาวนาน โดยยังมีเครือข่ายทั้งสก.สข. เคยมีส.ส. และผู้ว่ากทม. อีกทั้งยังเป็นพรรคสถาบันการเมืองไม่มีเจ้าของอย่างแท้จริง และเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกคน นอกจากนี้ตนเห็นว่ายังมี อีกหลายปัญหาที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข หากไปอยู่กับพรรคที่ไม่ได้เป็นสถาบันอย่างแท้จริง หรือเป็นพรรคเฉพาะกิจก็อาจทำให้เกิดปัญหาในการผลักดันการดำเนินงานในหลายเรื่อง จึงมั่นใจว่ากากตนจะผลักดันเรื่องต่างๆพรรคประชาธิปัตย์จะช่วยทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ร.ต.อ.พงศกรไม่ไปสังกัดพรรคพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองอดีตผู้ว่ากทม.ซึ่งเป็นบิดา เพราะมีปัญหาเรื่องการจัดวางตัวผู้สมัครของพรรครทสช.หรือไม่ ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่าไม่เกี่ยวกัน ทั้งนี้ตนและบิดามีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน แม้ตนกับบิดามีความต้องการให้ประเทศไทยดีขึ้นแต่ก็มีเส้นทางที่เลือกแตกต่างกันไป ดังนั้นเรื่องการจัดวางตัวผู้สมัครของพรรคดังกล่าวจึงไม่ใช่ปัญหา แต่ก็ยอมรับว่าพรรครทสช.และอีกหลายพรรคก็เคยมาทาบทามตน รวมถึงบิดาก็เคยมาชักชวนหลายครั้งให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่ตนก็ได้อธิบายตามเหตุผลข้างต้นไปแล้ว ซึ่งตนและบิดาก็เข้าใจกัน ตอนนี้ตนมาเสนอเป็นตัวเลือกหนึ่งในพื้นที่เขตคลองเตย-วัฒนา จึงต้องขยันทำงานในพื้นที่ให้มาก เพื่อทำให้ประชาชนในพื้นที่นี้เห็นว่าตนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่ามีความมั่นใจแค่ไหนที่จะชนะในพื้นที่คลองเตย-วัฒนา ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า เขตนี้เป็นเขตที่มีผู้สมัครที่มีชื่อเสียงและมีศักยภาพอยู่หลายคน ซึ่งตนไม่ได้คิดเรื่องความมั่นใจว่าจะชนะหรือไม่ แต่มั่นใจว่าจะทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นทางเลือกที่ดีให้กับประชาชนในเขตคลองเตย-วัฒนา หากประชาชนเมตตาตนก็จะสามารถทำประโยชนฺ์ให้กับพื้นที่นี้ได้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่เป็นลูกชายของอดีตผู้ว่ากทม.จะทำให้ได้เปรียบหรือเสียเปรียบผู้สมัครคนอื่นหรือไม่ ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะบิดาตนอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะมีการแข่งขันทางการเมืองแต่ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกัน
เมื่อถามอีกว่าบิดาได้ให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า ท่านบอกแค่ว่าต้องขยันกว่าคนอื่น เพราะตนเป็นคนหน้าใหม่ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูงกว่าคนอื่น ซึ่งบิดาของตนก็อยากให้ตนประสบความสำเร็จ แต่เนื่องจากท่านเป็นสมาชิกพรรครทสช.ก็ต้องไปช่วยพรรคนั้นด้วย
เมื่อถามว่าที่ระบุว่าเหตุผลหนึ่งที่มาร่วมกับพรรคปชป.เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่าตนได้พูดคุยขอคำแนะนำจากนายอภิสิทธิ์มาตลอด จนกระทั่งถึงวันที่ตนตัดสินใจมาเข้าอยู่กับพรรคปชป.
เมื่อถามอีกว่าจะเชิญให้นายอภิสิทธิ์มาช่วยหาเสียงในเขตคลองเตย-วัฒนา หรือไม่ ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่าตนจะไปขอคำแนะนำในการหาเสียงกับท่าน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับคำแนะนำที่ดี เพราะท่านก็เคยเป็นส.ส.ในเขตนี้
ส่วนความมั่นใจต่อกระแสของพรรคปชป.ในกทม.นั้น ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่าจากผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคปชป.ไมไ่ด้ส.ส.เลย ก็อาจจะถือว่ามีความเสียเปรียบพรรคอื่น แต่การเลือกตั้งผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ขณะที่การทำงานทางการเมือวควรทำในสิ่งที่เรามีความเชื่อและจะสามารถสร้างประโยชน์ให้ประชาชน ตนจึงเห็นว่าปชป.ตอบโจทย์ แม้ตอนนี้จะยังไม่มั่นใจว่าจะชนะหรือแพ้ แต่สิ่งที่ทั่นใจคือตนต้องทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับเขตนี้