ปธ.กก.ยุทธศาสตร์เสรีฯ บุกพบ “เลขากกต." หลังรู้ผลคำร้องรทสช." ขนคน-แจกของงานเปิดตัว"บิ๊กตู่"เข้าพรรค ถูกปัดตก นัด 3 มี.ค. เคลียร์เหตุผล ขู่ ไม่แจงเจอฟ้องดำเนินคดียกชุด
วันนี้ (24 ก.พ.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า กกต. ยกคำร้องกรณีที่ยื่นร้องขอให้ตรวจสอบการจัดประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และการเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 เข้าข่ายขนคนมาประชุม แจกเสื้อ แจกหมวก จัดมหรสพ และมีการปราศรัยหยาบคาย หรือไม่ ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียด ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการร้องในช่วง 180 วันก่อนสภาครบวาระ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้ ช่วงท้ายที่นายแสวงกำลังชี้แจงต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นายสมชัย ได้ปรากฎตัวขึ้นกลางวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนที่มาร่วมงาน เนื่องจากนายสมชัย ไม่ได้ระบุแจ้งหมายว่าจะเดินทางมาแต่อย่างใด โดยระบุว่าติดตามผลการแถลงข่าวของกกต.ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อรู้ว่าจัดงานที่ใด จึงมาให้กำลังใจการทำงานของกกต.และต้องการมาสอบถามเหตุผลที่ยกคำร้องการตรวจสอบพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะไม่ถนัดส่งจดหมาย จึงตัดสินใจเดินทางมานัดวันเพื่อขอคำชี้แจงด้วยตัวเอง
โดยนายสมชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ภายหลังที่ยื่นร้องให้ กกต.ตรวจสอบพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ที่ประชุม กกต.ได้ตีตกคำร้องดังกล่าว โดยได้มีหนังสือแจ้งไปยังนายวีระ สมความคิด ซึ่งเป็นผู้ร้องร่วมอีกรายที่อยู่ต่างจังหวัด โดยให้เหตุผล 2 ประการ ดังนี้ 1.คำร้องขาดรายละเอียด ไม่ระบุสถานที่ บุคคล รวมถึงไม่มีพยานหลักฐาน ซึ่งไม่เข้าองค์ประกอบการร้องเรียน แต่ความจริงได้ยื่นรายละเอียดไปทั้งหมด 2.กกต.ให้เห็นผลว่า ผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งดังกล่าว ซึ่งเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองกระทำความผิดกฎหมาย จะมาอ้างฐานะผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ได้
นายสมชัย กล่าวว่า เมื่อการตีตกคำร้องมีความไม่ชัดเจนจึงจะนัดเข้าไปขอรับฟังเหตุผลในการยกคำร้องดังกล่าว ในวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2566 เวลา 11.00 น. ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ความผิดของสำนักงาน กกต.แต่เป็นเรื่องที่ผ่านการเห็นชอบของ กกต.ไปแล้ว โดย มีกกต. 6 คนลงมติให้คำร้องดังกล่าวตกไป จึงต้องไปขอเหตุผลว่าเหตุใดจึงยกคำร้อง
“ต้องดูว่า กกต.ทั้ง 6 คน จะมาชี้แจงผมหรือไม่ หรือ จะส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจงกับผม เพราะสำนักงาน กกต.ที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ 800 คน ถ้าผมไปแล้วมีการปิดประตู สัปดาห์ถัดไปก็จะขอสงวนสิทธิดำเนินคดีกับ กกต.ทั้งชุด อย่างถึงที่สุด เพราะถ้าไม่คุยก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง แต่ถ้าได้พูดคุยกันแล้วชี้แจงเคลียร์ก็จะไม่ดำเนินคดี” นายสมชัย กล่าว