เลขาธิการ กกต. ยันแบ่งเขตยึดกม.ไม่ยึดว่าต้องถูกใจใคร หวังเลือกตั้ง 66 เป็นที่ยอมรับ เพื่อเป็นทางออกประเทศ
เมื่อวันนี้ (24 ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดอบรมสัมมนาเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติ กฎหมาย กฎระเบียบที่ปรับปรุงเปลี่ยนไปตามห้วงเวลาระหว่างสำนักงานกกต. สื่อมวลชน และเครือข่ายสำนักงานกกต.เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งส.ส. การทั่วไป พ.ศ. 2566
โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. กล่าวเปิดงานว่า ที่ผ่านมาการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนค่อนข้างถูกต้อง จะมีที่เป็นความเห็นของคอลัมนิสต์ที่ไม่ค่อยตรงข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงแต่ทั้งหมดเราก็พร้อมรับฟังซึ่งการทำงานของกกต.ไม่ได้ทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่เราทำงานเพื่อประเทศไทย อย่างเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่ได้ยึดหลักว่าต้องทำให้ถูกใจใคร เพราะผู้แข่งขันทุกคนก็ต้องการชัยชนะ เพียงแต่ต้องทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เราต้องทำให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน เพื่อให้เป็นทางออกของประเทศได้ อย่างไรก็ตามเรามี 4 หลักในการทำงาน 1.สุจริต เที่ยงธรรม 2.โปร่งใส ตรวจสอบได้เมื่อมีปัญหา 3. ประสิทธิภาพ 4.การมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งทุกคนควรรู้เรื่องการเลือกตั้งเท่ากันไม่ว่ากกต. ผู้สมัคร หรือประชาชน จะทำให้การเลือกตั้งง่ายขึ้น ไม่ถูกชักนำจากแรงจูงใจอย่างอื่น ถ้าประชาชนยังไม่รู้กติกาก็มีโอกาสถูกแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนเมื่อมีการแก้กฎหมาย มีระเบียบใหม่ การเลือกตั้งก็จะเปลี่ยนไป ยืนยันว่าเราทำตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่ากกต.คิดกติกาเพื่อประโยชน์ของใคร ถ้ากติกาไม่ดีก็ให้ไปแก้ที่กฎหมาย
นายแสวง ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งส.ส.นั้นมีแรงเสียดทานที่ตามมา จึงให้โจทก์กับสำนักงานว่าเราจะต้องทำให้เรียบร้อย และให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ ระหว่างทางกกต.จะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนเรื่องการทำไพรมารีโหวตของพรคการเมือง จากการทำงานร่วมกับพรรคการเมืองในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็ต้องเน้นย้ำให้พรรคการเมือง ปฏิบัติตามขั้นตอนซึ่งมีทั้งสิ้น 10 ขั้นตอน ตนในฐานะหัวหน้างานธุรการของ กกต. และพรรคการเมือง ก็มีความมั่นใจกับตัวทีมงาน และประชาชนที่มาร่วมงานกับเรา ณ วันนี้เราก็ได้เตรียมความพร้อมตามเงื่อนไขเวลาที่เกิดขึ้น แต่การเลือกตั้งจะเรียบร้อย และเป็นที่ยอมรับต้องได้รับความร่วมมือจากคนทุกคนในชาติ และหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้รับความร่วมมือ พร้อมย้ำว่าทาง กกต.รับฟังทุกความเห็น และไม่ได้ตัดสินใจบนพื้นฐานทางการเมือง แต่ตัดสินใจบนพื้นฐานของกฎหมาย และประโยชน์ของประเทศชาติ คงต้องขอความร่วมมือพรรคการเมืองว่าต้องแข่งขันให้เคารพกฎหมาย