ศาลปค.ยกคำขอ "สืบพงษ์" อธิการม.ราม ร้องจัดการกก.สภามหาวิทยาลัยปมไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ให้กลับมานั่งในตำแหน่ง ชี้เจ้าตัวเห็นเสียหาย ใช้สิทธิตามกม.ดำเนินการได้
วันนี้ (21ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(20ก.พ.)ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอของนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับตามคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาลงวันที่13 ก.พ.66ที่ให้นายสืบพงษ์ดำรงตำแหน่งอธิการบดี ม.รามคำแหง ไปก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีที่ยื่นนายสืบพงษ์ยื่นฟ้องสภา ม.ราม กรณีมีมติถอดถอดตนเองออกจากตำแหน่งโดยมิชอบ
ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากหลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 13ก.พ. นายสืบพงษ์ เห็นว่าสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ศาสตราจารย์ สมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง นายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง และผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญชาล ทองประยูร ผู้ถูกฟ้องคดี1-4 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลาง จึงนำคดียื่นฟ้องต่อศาล
ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองกลางยกคำขอระบุว่าทั้งนายสืบพงษ์และผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ได้รับแจ้งคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาเมื่อวันที่ 13ก.พ.66 คำสั่งดังกล่าวจึงมีผลใช้บังคับกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย อันมีผลทางกฎหมายให้มติของ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1ในการประชุมครั้งที่ 21/2565 เมื่อวันที่ 8พ.ย. 65ที่ถอดถอนนสยสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และที่แต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญชาล ทองประยูร ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งคำสั่งสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 119/2565 เรื่อง ถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลงวันที่ 9 พ.ย.65ที่ถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และคำสั่งสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 120/2565 เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี ลงวันที่ 9 พ.ย.65 ที่แต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญชาล ทองประยูร ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถูกทุเลาการใช้บังคับเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ดังนั้น นายสืบพงษ์จึงยังคงมีสถานะทางกฎหมาย อำนาจ และหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลงวันที่ 14 ก.ย.64 ดังเดิม จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนกพิพากษาเป็นอย่างอื่น กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลต้องบังคับตามคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำขอของนายสืบพงษ์แต่อย่างใด ส่วนกรณีหากสืบพงษ์ เห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ฝ่าฝืนการปฏิบัติตามคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาของศาลปกครองกลาง และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตน ย่อมเป็นเรื่องที่นายสืบพงษ์ต้องไปว่ากล่าวใช้สิทธิตามกฎหมายในเรื่องนั้นๆ แยกต่างหากเป็นอีกกรณีไป