วันนี้(19 ก.พ.)ดร.ฐิติ ชัยนาม ประธานโครงการ สี่เสาหลัก ให้สัมภาณ์ในงานรวมน้ำใจจากกลุ่มสตรี เพื่อเยาวชนในอนาคต ถึง"บทบาทของเยาวชนในอนาคต กับแนวคิดพหุภาคี ที่ดีงามในสังคม"โดยระบุว่า
โลกจะสันติสุข ถ้ามนุษยชาติ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา จะอยู่ร่วมกัน ด้วยความรัก ความเข้าใจความเสียสละ รู้จักการให้โดยมิหวังสิ่งตอบแทน และ มีความสามัคคี ปรองดอง การยอมรับให้เกียรติกัน ในความแตกต่างทางศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี เป็นความงดงามของพหุภาคี ควรเคารพซึ่งกันและ กันและในบทบาทของความเป็นเพื่อนทีไม่ทําลายความสัมพันธ์อันดีงามถึงแม้ว่า เราจะมีพี่น้อง ร่วมชาติ ที่ต่างศาสนา แต่มีความเป็นคนไทย หัวใจเดียวกัน ดังนั้น เราจึงมีสิทธิความเป็นพลเมืองไทยอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยเหตุผลนี้สังคมจึงควร ลดความเหลื่อมล้ำ ยุติการสร้างความแตกแยกในประเทศไทย...
สังคมที่ดีงาม คือ สังคมแห่งอนาคต สังคมที่ก้าวสู่อนาคต คือ การสร้างแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนคนไทยที่จะเป็นอนาคตของชาติ ในวัน ข้างหน้า ในการสร้างหัวใจ การเสียสละ การแบ่งปัน รวมใจเป็นหนึ่งเดียวเป็น การเริ่มต้นของสังคมที่มีคุณภาพ สังคมที่มีความเป็นพี่น้องมีความเป็นคนไทย หัวใจเดียวกัน
สังคมที่สวยงามต้องมาจากความเข้มแข็งของครอบครัว มาจากสตรี คือ มารดาและบิดาที่เคารพ การสร้างสังคมใหม่ ต้องหล่อหลอม กรอบความคิด และพฤติกรรมให้กับเยาวชน ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา และต้องมีรากฐานใน การสร้างจิตสำนึกที่มาจากคุณธรรม จริยธรรม เป็นสังคมที่มาจากจิตวิญญาณ และอุดมการณ์ของการอาสา ด้วยหัวใจ การอาสาด้วยหัวใจต้องปลูกฝังทัศนคติ แนวคิด ด้านบวก ความดีงามต้องมาจาก "จิตใต้สำนึก" ที่ใสสะอาด ต้องมาจาก การสร้างรากฐานของกรอบความคิด พฤติกรรมที่นำมาสู่กระบวนการทาง ความคิดให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ต่อไป เมื่อมีการสร้าง แนวคิด ทัศนคติที่มาจาก ด้านบวก รู้เท่าทันด้านลบ และเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตให้กับเยาวชน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาที่อาศัยอยู่ร่วมกันในผืนแผ่นดินในประเทศไทย เราทุกท่านจะ ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ในวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก และสิ่งที่สำคัญที่สุด เราทุกๆ คนเป็นคนไทยที่มีพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน คือสถาบันพระมหากษัตริย์ พระองค์ทรงเป็นพ่อของแผ่นดิน เป็นศูนย์รวมใจของ คนไทยทั้งชาติ ด้วยเหตุนี้ผืนแผ่นดินไทยจึงมิได้มีความขัดแย้งในเรื่องของ ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ประเทศไทยนั้น พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับคนไทยทุกศาสนาอย่างเท่า เทียมกัน พระองค์จึงมิได้เป็นแค่พ่อของแผ่นดินเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงเป็น อัครศาสนูปถัมภกทรงให้การสนับสนุนเกื้อกูล ในความหลากหลายของพหุภาคี อย่างงดงาม สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ บ้านเมืองจึงผ่านวิกฤติมาได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นของพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสืบสานต่อยอดสู่พระเจ้าอยู่หัวองค์ใน หลวงรัชกาลที่ ๑๐ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของ คำว่า "จิตอาสา ด้วยหัวใจ" การให้ด้วยหัวใจอันบริสุทธ์ ให้ด้วยจิตวิญาณของการเสียสละเป็นอุดมการณ์ อันสูงค่าที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นที่พระองค์ทรงพระราชทานให้กับ สังคมไทยสู่ลูกหลานไทย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ที่อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย
ดังนั้น ด้วยเหตุนี้ "จึงก่อกำเนิด "โครงการสี่เสาหลัก" ขึ้น เพื่อชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน สี่เสาหลักมาจากหัวใจของ จิตอาสาและการเสียสละ กระผมจึงขอเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทจาก พระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 9 สืบสานต่อยอดสู่รัชกาลที่ 10 เพื่อนําพาสังคม ให้เกิดความสงบ ความสันติสุข และสิ่งสำคัญที่สุดในทุกวันนี้ เราต้องหันมา ช่วยกันพัฒนาและสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพมากขึ้น ส่งเสริมให้เยาวชน ลูกหลานให้เติบโตเป็นคนที่มีทั้งคุณภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นกำลังสำคัญของสังคมและประเทศชาติต่อไป