“จุรินทร์” ควง “บัญญัติ” เปิดศูนย์เลือกตั้งเขตพระโขนง-บางนา เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร 33 เขต 3 มี.ค. ชู “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ประกันรายได้ให้คนกรุงเทพชั้นนอก-อินเทอร์เน็ตฟรี 1 แสนจุด
วันนี้ (19 ก.พ.) เวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และสมาชิกพรรค ร่วมพิธีเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตพระโขนง- บางนา
นายจุรินทร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า จากการเลือกตั้งทุกสมัย ประชาธิปัตย์ ไม่เคยถูกชาวกรุงเทพฯ ทอดทิ้ง แม้การเลือกตั้งคราวที่แล้ว เราไม่ได้ผู้แทนฯ แต่ไม่ได้แปลว่า ชาวกรุงเทพฯ ทิ้งประชาธิปัตย์ เพราะอย่างน้อยคนที่มาลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ทั้งหมด มีจำนวน 478,000 คะแนน หรือประมาณครึ่งล้าน ที่ยังเลือกประชาธิปัตย์ แม้จะไปนับรายเขต เราจะไม่ได้ผู้แทน แต่เสียงที่หนุนเนื่องจากชาวกรุงเทพฯ ที่มีต่อประชาธิปัตย์ยังคงอยู่เสมอมา
“เที่ยวนี้ ผมมั่นใจว่า เสียงตอบรับจากชาวกรุงเทพฯ ต่อประชาธิปัตย์ ดีขึ้นเป็นลำดับ อย่างน้อยที่สุดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่เพิ่งผ่านไป แม้พรรคไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ แต่ก็มาเป็นลำดับที่ 2 ส่วนเลือกตั้ง ส.ก. ได้ถึง 9 ที่นั่ง และมาที่ 2 อีก 7 ที่นั่ง สัญญาณการเลือกตั้งเที่ยวหน้า พวกเรามั่นใจว่าชาวกรุงเทพฯ จะต้อนรับประชาธิปัตย์อบอุ่นขึ้น”
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง ทั้งตัวบุคคล ผู้สมัคร นโยบาย และระบบการบริหารจัดการ ซึ่งประชาธิปัตย์ได้ประกาศกรอบยุทธศาสตร์สำคัญ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” เพื่อเดินหน้าพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่เข้มแข็งต่อไป ซึ่งได้ประกาศไปแล้ว 8 นโยบาย และมีที่เกี่ยวพันกับชาวกรุงเทพฯ เช่น ประกันรายได้ สำหรับเขตกรุงเทพฯ ชั้นนอก นโยบายสร้างธนาคารชุมชน นโยบายนมโรงเรียนฟรี 365 วัน นโยบายอินเทอร์เน็ตฟรี 1 แสนจุด
ส่วนเรื่องตัวบุคคล ประชาธิปัตย์เตรียมพร้อมแล้ว โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้กรุงเทพฯได้เพิ่มจำนวนเขตจาก 30 เป็น 33 เขต และจะเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 33 คน ในวันที่ 3 มี.ค. นี้ สำหรับเขตบางนา-พระโขนง ประชาธิปัตย์ ส่ง นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ซึ่งเป็นผู้แทนราษฎร มาแล้ว 2 สมัย และยังเป็นเหรัญญิก และกรรมการบริหารของพรรคด้วย