ปธ.สภาฯ สอนมวย คนทำงานจะรู้ว่าเวลามีค่า ไล่ ส.ส.พปชร. หารือรบ.จะแก้ปัญหาองค์ประชุมอย่างไร หลังอภิปรายขอชะลอ กม.การศึกษา ชี้ การประชุมสะดุดเพราะความรู้สึก-ความเห็นฝั่ง รบ.ขัดกันเอง โอด เราต้องอดทนอย่างนี้ เป็นหน้าที่ก็ต้องทำ
วันนี้ (17 ก.พ.2566) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ เมื่อถึงมาตรา 15 เรื่องการจัดการศึกษาเอกชนให้บรรลุตามเป้าหมาย นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวอภิปรายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในร่างพระราชบัญญัติการศึกษาฉบับนี้ ค่อนข้างเร่งรีบ เร่งทำในปลายสมัยรัฐบาล ในขณะเดียวกันผู้ที่ปฏิบัติงานมีการแสดงออกที่ค่อนข้างต่อต้านต่อต้านบางส่วน ไม่เห็นด้วย เช่น เงินประจำตำแหน่งของ ผอ.เขต จึงต้องเรียนว่าเป็นสิ่งที่กังวลใจ
“ขอโทษนะครับ อยากจะชะลอไปก่อน แล้วเป็นรัฐบาลใหม่ที่มีความสุขกัน พร้อมหน้าพร้อมตากัน พี่รู้สองน้องรู้หนึ่งต้องช่วยกัน เพื่อกำหนดชะตากรรมการศึกษา ถ้าตราบใดเราเร่งรีบแล้วเกิดการผิดพลาดขึ้นมาผมคิดว่าไม่มีความสุข ผลต่อลูกศิษย์ คุณภาพต่อผู้เรียนจะดีไหมครับ คุณภาพตรงนี้จะเป็นอย่างไร” นายเกษมกล่าว
ทำให้นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องฝากถามรัฐบาล เพราะเรื่องนี้เป็นกฎหมายรัฐบาล ตนได้ทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เจ้าของกฎหมายนี้แล้ว รวมถึงทำจดหมายไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้วด้วยว่าต้องการอย่างไร หากต้องการให้กฎหมายนี้ผ่านก็ต้องนำองค์ประชุมมาด้วย แต่หากนายเกษม ในฐานะอยู่พรรครัฐบาล คิดอย่างนี้ ตนฝากไปหารือ
“เพราะเวลาเป็นของมีค่ามาก ถ้าเราไม่พร้อมแล้วต้องมาเสียเวลาอยู่อย่างนี้ เวลาไม่ใช่ของเราคนเดียว ไม่ใช่ของผมคนเดียว ของพวกเราทุกคน รวมกันแล้ว มหาศาล ที่เราเสียไป ถ้าเราไม่เต็มใจที่จะทำ ถ้าเป็นไปได้ในฐานะอยู่รัฐบาล ท่านเกษมก็ไปหารือรัฐบาล ว่าต้องการให้สภาทำอย่างไร คือทำให้งานของเรา ฝ่ายนิติบัญญัติ สมบูรณ์ที่สุด ผมกราบเรียนไปแล้วว่าอยากให้งานของรัฐสภาผ่านไปได้ร้อยทั้งร้อย”
นายชวน กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้นจึงได้จัดระเบียบการประชุมให้ผ่านไปทุกเรื่อง แต่ว่าเมื่อสะดุดด้วยความรู้สึกและความเห็นที่แตกต่างมาจากฝ่ายรัฐบาลเอง เราก็เลยไม่แน่ใจว่าต้องการอย่างไร เพราะกฎหมายฉบับนี้ก็ต้องการการพิจารณา ถ้าเป็นไปได้อยากให้ชี้แจงเป็นความเห็นมา ซึ่งเราจะต้องอดทนกันอย่างนี้ แต่มันก็เป็นหน้าที่ เราต้องทำ
“เราต้องอดทนเพื่อรอองค์ประชุมเพียงมาตราเดียว เราใช้เวลาไปเท่าไหร่ คนที่ทำงานก็รู้ว่าเวลามีค่าอย่างไร เรียนท่านเกษม ท่านไม่ใช่รัฐมนตรี แต่ในฐานะฝ่ายรัฐบาลท่านเกษมเป็นผู้ใหญ่ที่มาชีวิตการศึกษามามากแล้ว ผมรู้จักท่านดี ท่านลองหารือดู” นายชวนกล่าว
จากนั้น นายชวน ได้สอบถึงกรรมาธิการว่าสภาจะดำเนินการไปแบบนี้ ถ้ามีปัญหาความไม่พร้อม ทำให้นายดวง อันทะไชย ประธานกรรมาธิการ กล่าวว่า คณะกรรมการได้มีการประชุมหารือกันเสร็จเรียบร้อยส่วนที่ประชุมจะเห็นด้วยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง องค์ประชุมต่างหากที่จะทำให้กฎหมายเคลื่อนไปข้างหน้า ย้ำว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายในนโยบายปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา มีความสำคัญมากในการเปลี่ยนแปลงประเทศเหมือนเรื่องอื่น