วันนี้(16 ก.พ.)นายประมวล จันทะบุตร อายุ 76 ปี ประธานสาขาสมาคมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุถือว่า เป็นกลุ่มบุคคลที่ยังมีความสำคัญต่อการพัฒนา และเป็นฐานรากของสังคม ที่รัฐบาลจะต้องดูแลเอาใจใส่ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยือน ทำกิจกรรมของกลุ่มผู้สูงอายุ ยังพบว่าบางส่วนขาดการดูแลจากสังคม รวมถึงขาดการดูแลจากลูกหลาน ด้วยพื้นฐานฐานะความเป็นอยู่ ทำให้ ผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทั้งนี้ หากทางพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย มีนโยบายออกมาเกี่ยวกับการดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุถือเป็นเรื่องดี ยิ่งเกี่ยวกับนโยบาย กองทุนประกันชีวิต 60 ปี ขึ้นไป เสียชีวิตได้ 1 แสนบาท และสามารถกู้ได้ 20,000 บาท ไม่ต้องมีคนค้ำ ถือว่า จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของผู้สูงอายุ นอกเหนือจากเบี้ยยังชีพ
เพราะบางคนผู้สูงอายุ 60 ปี ยังสามารถทำอาชีพเลี้ยงชีพได้ แต่ยังขาดการสนับสนุนเอาใจใส่ อีกทั้งยังถือว่าเป็นการช่วยเหลือลูกหลาน ที่มีฐานะยากจน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่องการจัดบำเพ็ญกุศล รวมถึงช่วยเหลือลูกหลาน ที่มีฐานะยากจน สามารถนำเป็นทุนในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างงาน สร้างอาชีพ ได้อีกบางส่วน มั่นใจว่าหากพรรคภูมิใจไทย ทำได้ จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ได้เป็นอย่างดี
ด้านนายพงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล อายุ 60 ปี เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าสังคมผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป มีจำนวนมากขึ้น และยังต้องได้รับการดูแลสวัสดิการ โดยเฉพาะพื้นที่ อีสาน ยังมีปัญหาเรื่องฐานะความยากจน ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ที่สำคัญต้องยอมรับว่า ขาดการดูแลเอาใจใส่จากลูกหลาน เนื่องจากพื้นฐานของครอบครัว แตกต่างกันออกไป บางรายต้องดิ้นรน ทำงานทั้งที่อยู่ในวัยสูงอายุ เนื่องจากต้องทำงานเลี้ยงชีพ ตนมองว่า หากรัฐบาล ดูแลเพียงสวัสดิการ เบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุเเบบเดิม ถือว่าไม่เพียงพอ หลังจากทราบข่าว ว่า พรรคภูมิใจไทย มีนโยบาย เกี่ยวกับการเอาใจใส่ดูแลสวัสดิการ กองทุนประกันชีวิต 60 ปี ขึ้นไป เสียชีวิตได้ 1 แสนบาท และสามารถกู้ได้ 20,000 บาท ไม่ต้องมีคนค้ำ ถือเป็นเรื่องดี จะเป็นการสร้างพื้นฐาน พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้กับผู้สูงอายุ และบางคนที่ยังสามารถทำงานเลี้ยงชีพได้จะได้ต่อยอด ในการลงทุน พัฒนาคุณภาพชีวิต หรือเวลาเจ็บป่วยเสียชีวิต จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน อย่างไรก็ตามในการออกนโยบาย อยากให้ทำได้จริง และเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล หรือพรรคภูมิใจไทย และจะต้องได้รับการดูแลทั่วถึงเท่าเทียมกันทุกราย