xs
xsm
sm
md
lg

“ทิพานัน” ยกรายงาน IMF-Financial Times โต้ พท.ตีกินแก้ ศก. ชู “บิ๊กตู่” ซื่อสัตย์ ไม่เอื้อประโยชน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกรัฐบาล ยกรายงาน IMF-Financial Times โต้ “ชลน่าน” ตีกินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” ซื่อสัตย์ ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลใด เข้มปราบโกง วอนหยุดวาทกรรมกล่าวหาเลื่อนลอยทำสังคมสับสน

วันนี้ (15 ก.พ.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า เท่าที่ติดตามการอภิปรายและพี่น้องประชาชนได้แสดงความคิดเห็นมาผ่านช่องทางต่างๆ ต่อการอภิปรายนั้น ประเด็นส่วนใหญ่ในการอภิปรายเป็นไปตามที่คาดหมาย ยังไม่ได้เป็นไปอย่างที่ฝ่ายค้านอ้างว่าจะยกระดับเทียบเท่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างที่กล่าวอ้าง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยเฉพาะประเด็นที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า ทำเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นการอภิปรายที่สร้างวาทกรรมตีกิน โดยไม่ได้อิงหลักฐานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากรายงาน World Economic Outlook ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund หรือ IMF) ที่ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัวประมาณ 4% ขณะที่สื่อต่างประเทศอย่าง Financial Times ซึ่งเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลทั่วโลก ได้ชื่นชมประเทศไทย ว่า มีการบริหารเศรษฐกิจด้วยความเชี่ยวชาญ และมีความรับผิดชอบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในหลายๆ เรื่อง จนสามารถพูดได้ว่า เงินบาทเป็นสกุลเงินที่มีความมั่นคงที่สุดเป็นอันดับแรกของโลก

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนกรณีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักฐานและกระบวนการตรวจสอบที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรม ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีความชัดเจนว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลใด ความซื่อสัตย์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ประจักษ์ ดังที่พี่น้องประชาชนให้ความเชื่อมั่นจากผลโพลต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีความโดดเด่นชัดเจนในเรื่องนี้

“การอภิปรายของฝ่ายค้านที่เหลืออยู่ ต้องระวังการใช้วาทกรรมกล่าวหาที่เลื่อนลอย จนสร้างความสับสนให้กับสังคมเกิดความเข้าใจผิดได้” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น