“วินท์ สุธีรชัย” เผยอึดอัดไม่ต่างจาก “คริส-โปตระนันท์” รับปมแก้มาตรา 112 เป็นชนวนแตกหัก เหมือนทรยศสัญญากับ ปชช.
วันนี้ (11 ก.พ.) นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายคริส โปตระนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตจตุจักร พญาไท ราชเทวี ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และมูลนิธิเส้นด้าย ที่เพิ่งประกาศลาออกจากพรรคก้าวไกล ว่า ภายในพรรคก้าวไกลจะมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีอำนาจค่อนข้างพิเศษ แต่ ณ เวลานั้นเราเป็นแค่ ส.ส.คนหนึ่ง เราก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่สำหรับคริส เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรค และก็เป็นกรรมการบริหารชั่วคราวชุดแรกๆ เลย เขาจะรู้ค่อนข้างลึกทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า และตนคิดว่าพรรคก้าวไกลเป็นเผด็จการมากกว่าพรรคลุงตู่
นายวินท์ กล่าวต่อว่า อย่างกรณีที่ตนไม่เซ็นแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เพราะวันที่ตนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ในตอนนั้นแกนนำหาเสียงและสัญญากับประชาชน ว่าจะไม่แก้ไขมาตรา 112 ฉะนั้นตนก็ยึดถือสัญญานี้มาตลอด ซึ่งพอมาถึงวันที่มีการโหวตให้เซ็นแก้ไขมาตรา 112 ก็ได้ประชุมพรรคและมีคนบางกลุ่มพูดว่า มีทางเลือกให้ 2 ทางคือ แก้ไขกับยกเลิก อันนี้เป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่า มีการวางแผนไว้อยู่แล้ว ที่จะทำตามสัญญากับประชาชนนี้คือสิ่งที่ตนเจอกับตัวสิ่ง
เมื่อถามถึงกรณีที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าสิ่งที่นายคริสพูดเป็นการใส่ร้ายพรรค นายวินท์ กล่าวว่า ถ้ามันไม่เป็นความจริง เหตุใดกรรมการบริหารพรรคของอนาคตใหม่ ถึงมาให้กำลังใจกับนายคริสขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ว่ากรรมการบริหารชุดนั้น เห็นหรือได้เจอกับตัวหรือเปล่า
เมื่อถามต่อว่า จะมีเหตุการณ์สมาชิกพรรคก้าวไกลที่จะเดินตามนายคริสออกมาหรือไม่ นายวินท์ กล่าวว่า ถ้าเราดูข่าวเก่าๆ จะเห็นมามีข่าวทำนองนี้มาโดยตลอด อย่างล่าสุดก็มี ส.ส.ท่านหนึ่ง ที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขกติกาของพรรคทั้งหมดแต่สุดท้ายก็ถูกพรรคแบนอีก เพราะฉะนั้นมันมีมาตลอด เพียงแต่ว่าคนเหล่านั้น อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากับคุณคริสเวลาพูดเสียงเลยไม่ดัง
เมื่อถามต่อว่า จะมีการชวนนายคริสไปร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)หรือไม่ นายวินท์ กล่าวว่าคงไม่ เพราะตนเห็นจากเจตนารมย์ของนายคริสและก็นับถือเขา ตนก็เคารพการตัดสินใจ และก็อยากให้กำลังใจ ถึงเราจะไม่มีประโยชน์ซึ่งกันและกัน เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางการเมืองแล้ว แต่ในอดีตตอนที่เราเดินเข้าไปในพรรคอนาคตใหม่ ก็เพราะวิสัยทัศน์และจุดยืนทางการเมืองที่ต้องการเห็นการเมืองสมัยใหม่ และเมื่อนายคริสจะเอาวิสัยทัศน์นี้ไปสร้างองค์กรใหม่ เราก็อยากให้เขาประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ย้ำว่าสิ่งที่ทั้งตนและนายคริส รวมถึงอดีตสมาชิกของพรรคก้าวไกลที่ออกมาพูด ทุกเรื่องเป็นความจริง