xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” นำทีมลุยปราศรัย “คลองเตย-วัฒนา” ลั่น รอบนี้ขอเอาจริง ชี้ กทม.คือ หัวใจของประเทศ ขอเปลี่ยนหัวใจคน กทม.เป็น “ภูมิใจไทย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน” นำทีมลุยปราศรัย “คลองเตย-วัฒนา” ลั่น รอบนี้ขอเอาจริง ชี้ กทม. คือ หัวใจของประเทศ ขอเปลี่ยนหัวใจคน กทม. เป็น “ภูมิใจไทย” ด้าน “กรณิศ” เผย เหตุย้ายซบ “ภูมิใจไทย” อยู่พรรคเดิมอึดอัด อยากทำงานแต่ไม่ได้รับแรงสนับสนุน เชื่อ บ้านหลังใหม่เข้มแข็ง-พูดแล้วทำได้ ขณะที่ “ศุภชัย” อ้อนขอ ส.ส.กทม. 10 คน อาสาช่วยพลิกฟื้นเมืองหลวง
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. เวลา 16.40 น. ที่ศูนย์เยาวชนคลองเตย กทม. พรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรัยย่อยช่วย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคภูมิใจไทย หาเสียง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้าร่วม โดยมีประชาชนประมาณ 1,000 คน ร่วมฟังปราศรัย

โดย นางกรณิศ กล่าวบนเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนทำงานการเมืองมาตั้งแต่ปี 49 เป็นระยะเวลากว่า 16 ปี เคยเป็น ส.ก. 2 สมัย และในปี 62 ได้เข้าสู่การเลือกตั้งระดับชาติได้เป็น ส.ส. 1 สมัย จากคำชักชวนของผู้ใหญ่ ซึ่งตลอดระยะเวลาตั้งแต่เป็นส.ก.จนเป็น ส.ส. ตนภาคภูมิใจในตัวเองมาก และอยากให้คนคลองเตย-วัฒนา ภูมิใจในตัวของตนเหมือนกัน ช่วงที่ยากลำบากที่สุดคือช่วงโควิด-19 แต่เราไม่เคยทิ้งกัน และผ่านมาได้จากการช่วยกัน ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจย้ายบ้านจากพรรคเก่ามาพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นช่วงที่ตนเป็น ส.ส. ได้พยายามทำหน้าที่ในสภาอย่างดีที่สุด มีการนำปัญหาของพี่น้องประชาชนมาหารือในสภาเกือบทุกสัปดาห์ แต่การเป็น ส.ส.ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากบ้านหรือพรรคที่เราอยู่ เราก็ไม่สบายใจ เพราะเราเป็นคนทำงาน สิ่งที่เราจะทำได้ คือ ถ้าเรามีพรรคที่สนับสนุน ส.ส. ให้ทำงานเพื่อประชาชนได้ก็จะดีที่สุด

“นี่คือ สิ่งที่ตนอึดอัด แต่ตนเห็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งทำงานเข้มแข็งมาก เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีเอกภาพสูง ให้ความสำคัญกับ ส.ส.ในพรรค หากท่านดูพื้นที้ต่างจังหวัดที่มี ส.ส.ภูมิใจไทย ท่านจะเห็นความเจริญได้ชัดเจน ซึ่งตนอยากทำงานที่แท้จริง ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เข้าไปในสภาแล้วไม่ทำอะไรเลย ตนจึงตัดสินใจลาออก เพื่อจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานในบ้านหลังใหม่ ซึ่งตนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่พูดแล้วทำ ครั้งนี้จึงเป็นครั้งสำคัญที่เราต้องช่วยกัน ทุกเสียงของท่านมีค่าอย่างมาก เราขอโอกาสให้พรรคภูมิใจไทยได้ปักธงในเขตคลองเตย-วัฒนา” นางกรณิศ กล่าว

จากนั้น นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียน พรรคภูมิใจไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งปี 62 พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส. 51 คน และมีรัฐมนตรีของพรรค 7 คน ที่ทำงานในหลายกระทรวง ช่วงเวลาที่ผ่านมา เราทำงานในฐานะส.ส.จากทั่วทุกภาคของประเทศ เราคิดว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ และเป็นประโยชน์ แต่สิ่งที่เราไม่มีคือเราไม่มี ส.ส.ใน กทม. เราเป็นพรรคการเมืองบ้านนอก มีคนบอกว่า พรรคเราเป็นพวกเซราะกราว มีแต่ จ.บุรีรัมย์ ภาคใต้ และหลายๆ จังหวัด แต่แม้เราจะเป็น ส.ส.บ้านนอก แต่ก็ทำพัฒนาให้ชีวิตตวามเป็นอยู่ดีขึ้น เราช่วยพัฒนาจนพรรคการเมืองอื่นตกใจ

“พรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ ไม่ได้ดีแต่พูด วันนี้เมื่อเราทำต่างจังหวัดให้ดีขึ้นแล้ว เราขออาสาทำงานให้คน กทม. และการเลือกคนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเลือกคนที่เป็นไปได้ มีความสามารถ มีความพร้อมทุกๆ เรื่อง นำพาประเทศไปข้างหน้า วันนี้พรรคขอโอกาส และพร้อมอาสาให้คนคลองเตย-วัฒนา เราไม่ใช่พรรคเซาะกราว แต่จะเป็นพรรคที่ขอทำงานให้คนเมืองหลวงด้วย เราขอ กทม. สัก 10 คน เพื่อเข้ามาทำงาน และช่วยพลิกฟื้น กทม.” นายศุภชัย ระบุ

จากนั้น เวลา 18.00 น. นายอนุทิน ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า พี่น้องชาว กทม. ชาวคลองเตย-วัฒนา กำลังจะให้โอกาสพรรคภูมิใจไทยมาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน เพื่อให้คุณภาพชีวิต ปากท้อง ดีมากขึ้น ตนกรอกใบสมัครมา 2 รอบแล้ว พี่น้องก็ยังไม่รับ แต่ครั้งนี้รอบที่ 3 ช่วยรับช่วยให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย เราตั้งใจมารับใช้ชาว กทม.จริงๆ เราเริ่มมาจากพรรคต่างจังหวัด โดยใช้ผลงานทำงานให้ประชาชนเห็น วันนี้ กทม.มีพร้อมทุกอย่าง แต่ขาดคนมาจัดการให้เรียบร้อยเป็นระบบ พรรคภูมิใจไทยจึงขออาสา แม้ว่า กทม.ดูแลพื้นที่อยู่ แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ทั้งหมดทุกเรื่อง เขามีขอบเขตอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินของพวกเขา แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องให้หน่วยงานอื่นๆ ช่วยดำเนินการ ทั้งด้านคมนาคม การบริการทางสาธารณสุข เป็นต้น

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เราจะไม่ด้อยค่าใคร เราจะรับฟังความเห็น และขอความร่วมมือทุกฝ่าย แต่ถ้าใครไม่ให้ความร่วมมือ เราก็จะทำเอง เราพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เราจะทำงานจนพี่น้องใจอ่อน

“พรรคภูมิใจไทยมอง กทม. คือ หัวใจของประเทศ ไม่ใช่ว่าคน กทม. ไม่เลือกเราแล้วเราจะไม่สนใจ วันนี้เราต้องการเปลี่ยนหัวใจของพี่น้องในพื้นที่ กทม.ให้เป็นภูมิใจไทย รอบนี้เรามาจริง และคิดไว้ว่าจะมาแรง ไม่ใช่ลมเพลมพัด ไม่ใช่ฝนตกขี้หมูไหล วันนี้หัวหน้าพรรคมาพบชาวคลองเตย-วัฒนา ท่านเพียงเลือกนางกรณิศเป็น ส.ส. ที่เหลือเป็นความรับผิดชอบของผม ผมจะให้นางกรณิศ รับใช้พี่น้องด้วยความสามารถที่เขามีอยู่ทุกเรื่อง พรรคนี้มีความเป็นเผด็จการ แต่ไม่ใช่เผด็จการในแง่ประชาธิปไตย เผด็จการ ณ ที่นี้คือถ้าหัวหน้าพรรคพูดแล้วห้ามขวาง ห้ามคัดค้าน” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายอนุทิน ได้แนะนำ น.ส.ชนม์ทิดา ที่ได้ขึ้นมาบนเวทีปราศรัยด้วย ว่าเป็นบุตรสาวของ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นแฟนของบุตรชายตัวเอง ตนจะส่งลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื้อ โดยจะอยู่ในลำดับที่เป็น ส.ส.ได้แน่นอน


















กำลังโหลดความคิดเห็น