UNFPA ประเทศไทย จับมือ Reckitt ลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ ขับเคลื่อนโครงการต่อเนื่อง พร้อมเสวนา “Empowering Our Youth” ส่งเสริมพลังวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ตั้งเป้า3 ปี 3 เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา นายโอซา ทอคิลส์สัน (Dr. Asa Torkelsson) ผู้อำนวยการ UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาติประจำประเทศไทยและผู้แทนประจำประเทศมาเลเซีย และ นายโรหิต จินดาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เรกคิทท์ (ประเทศไทย) จำกัด และภูมิภาคอินโดจีน ได้ลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ ระหว่าง UNFPA และ Reckitt พร้อมกันนี้ยังได้จัดเสวนา “Empowering Our Youth ส่งเสริมพลังวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้นายโอซา ทอคิลส์สัน (Dr. Asa Torkelsson) ผู้อำนวยการ UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาติประจำประเทศไทยและผู้แทนประจำประเทศมาเลเซียกล่าวว่า UNFPA ได้ดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหลายภาคส่วนในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี ด้วยเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ ส่งเสริมให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการการวางแผนครอบครัว ยุติการเสียชีวิตของมารดาจากการคลอด และการยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ โดยสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 3 และ 5 ภายในปี 2573 ทั้งนี้ Reckitt ซึ่งเป็นภาคเอกชนได้สนับสนุนและร่วมมือการดำเนินงานของ UNFPA ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 และประสบผลสำเร็จเชิงประจักษ์จากโครงการการคลอดอย่างปลอดภัยสำหรับทุกคน (Safe Birth for All) จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ภายใต้โครงการ ‘Empowering Our Youth’ ที่ Reckitt จะสนับสนุนการทำงานของ UNFPA ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องคือจากปี 2565 – 2569 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ 3 ของการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs นั่นคือ การส่งเสริมให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการการเข้าถึงถุงยางอนามัย การป้องกันการตั้งครรภ์และการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับแม่วัยรุ่นและแม่ที่อยู่ในภาวะเปราะบางซึ่งสนับสนุนเป้าหมายที่ 5 ด้วยเช่นเดียวกัน นั่นคือ การบรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน
ด้านนายโรหิต จินดาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เรกคิทท์ (ประเทศไทย) จำกัด และภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า Reckitt ได้สนับสนุนการดำเนินงานของ UNFPA หรือกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยมาโดยตลอด และมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนการทำงานของ UNFPA ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานโครงการ Empowering Our Youth มีความชัดเจนและประสบผลสำเร็จ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคงให้กับวัยรุ่นทั้งหญิง ชาย รวมทั้งแม่วัยุร่นและแม่ที่อยู่ในภาวะเปราะบาง นอกจากนี้ การลงนาม MOU ในครั้งนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ในหลากหลายมิติอีกด้วย
ส่วนน.ส.สิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงาน UNFPA ประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ Reckitt ที่เล็งเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนงานในประเทศไทย และให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอีก 5 ปี ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจต่อโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในแผนงาน โดยการสนับสนุนจะมุ่งเน้นแนวทางด้านเพศศึกษาที่จะทำให้เกิดการป้องกันและดูแลตนเองโดยวัยรุ่นชายสามารถดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และวัยรุ่นหญิงให้ลดการเข้าสู่ภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน รวมถึงการดูแลตนเองหากเกิดการตั้งครรภ์ การวางแผนระหว่างตั้งครรภ์และเข้าถึงบริการสาธารณสุข และมีความรู้ในการเลี้ยงดูลูกภายหลังคลอด รวมทั้งได้รับการยอมรับกลับเข้าไปในสังคมและดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างมีศักยภาพภานหลังคลอดลูกในช่วงการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแล้ว
ขณะที่ ดร.นพ.ปณต ประพันธ์ศิลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และกิจการภายนอก บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Reckitt ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมพลังวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือให้การสนับสนุนครั้งนี้ และหวังจะได้เห็นทุกการตั้งครรภ์เป็นความตั้งใจของทั้งหญิงและชาย การวางแผนครอบครัว การโอบอุ้มดูแลแม่วัยรุ่นและแม่ที่อยู่ในภาวะเปราะบาง การยุติการเสียชีวิตของทารกและมารดาจากการตั้งครรภ์ และการยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศในประเทศไทย การทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม จะทำให้เรานำพาประเทศไทยเข้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา นายโอซา ทอคิลส์สัน (Dr. Asa Torkelsson) ผู้อำนวยการ UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาติประจำประเทศไทยและผู้แทนประจำประเทศมาเลเซีย และ นายโรหิต จินดาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เรกคิทท์ (ประเทศไทย) จำกัด และภูมิภาคอินโดจีน ได้ลงนามความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธ์ศาสตร์ ระหว่าง UNFPA และ Reckitt พร้อมกันนี้ยังได้จัดเสวนา “Empowering Our Youth ส่งเสริมพลังวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้นายโอซา ทอคิลส์สัน (Dr. Asa Torkelsson) ผู้อำนวยการ UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาติประจำประเทศไทยและผู้แทนประจำประเทศมาเลเซียกล่าวว่า UNFPA ได้ดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหลายภาคส่วนในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี ด้วยเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ ส่งเสริมให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการการวางแผนครอบครัว ยุติการเสียชีวิตของมารดาจากการคลอด และการยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ โดยสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 3 และ 5 ภายในปี 2573 ทั้งนี้ Reckitt ซึ่งเป็นภาคเอกชนได้สนับสนุนและร่วมมือการดำเนินงานของ UNFPA ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 และประสบผลสำเร็จเชิงประจักษ์จากโครงการการคลอดอย่างปลอดภัยสำหรับทุกคน (Safe Birth for All) จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ภายใต้โครงการ ‘Empowering Our Youth’ ที่ Reckitt จะสนับสนุนการทำงานของ UNFPA ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องคือจากปี 2565 – 2569 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ 3 ของการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs นั่นคือ การส่งเสริมให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการการเข้าถึงถุงยางอนามัย การป้องกันการตั้งครรภ์และการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่น การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับแม่วัยรุ่นและแม่ที่อยู่ในภาวะเปราะบางซึ่งสนับสนุนเป้าหมายที่ 5 ด้วยเช่นเดียวกัน นั่นคือ การบรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน
ด้านนายโรหิต จินดาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เรกคิทท์ (ประเทศไทย) จำกัด และภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า Reckitt ได้สนับสนุนการดำเนินงานของ UNFPA หรือกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยมาโดยตลอด และมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนการทำงานของ UNFPA ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานโครงการ Empowering Our Youth มีความชัดเจนและประสบผลสำเร็จ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคงให้กับวัยรุ่นทั้งหญิง ชาย รวมทั้งแม่วัยุร่นและแม่ที่อยู่ในภาวะเปราะบาง นอกจากนี้ การลงนาม MOU ในครั้งนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ในหลากหลายมิติอีกด้วย
ส่วนน.ส.สิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงาน UNFPA ประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ Reckitt ที่เล็งเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนงานในประเทศไทย และให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอีก 5 ปี ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจต่อโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในแผนงาน โดยการสนับสนุนจะมุ่งเน้นแนวทางด้านเพศศึกษาที่จะทำให้เกิดการป้องกันและดูแลตนเองโดยวัยรุ่นชายสามารถดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และวัยรุ่นหญิงให้ลดการเข้าสู่ภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน รวมถึงการดูแลตนเองหากเกิดการตั้งครรภ์ การวางแผนระหว่างตั้งครรภ์และเข้าถึงบริการสาธารณสุข และมีความรู้ในการเลี้ยงดูลูกภายหลังคลอด รวมทั้งได้รับการยอมรับกลับเข้าไปในสังคมและดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างมีศักยภาพภานหลังคลอดลูกในช่วงการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแล้ว
ขณะที่ ดร.นพ.ปณต ประพันธ์ศิลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และกิจการภายนอก บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Reckitt ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมพลังวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือให้การสนับสนุนครั้งนี้ และหวังจะได้เห็นทุกการตั้งครรภ์เป็นความตั้งใจของทั้งหญิงและชาย การวางแผนครอบครัว การโอบอุ้มดูแลแม่วัยรุ่นและแม่ที่อยู่ในภาวะเปราะบาง การยุติการเสียชีวิตของทารกและมารดาจากการตั้งครรภ์ และการยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศในประเทศไทย การทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม จะทำให้เรานำพาประเทศไทยเข้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง