รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พาณิชย์จัดโครงการ Local+ ดันเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาสินค้า สร้างเรื่องราว ขยายตลาดสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากยิ่งขึ้น
วันนี้ (1 ก.พ.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวจนเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวขยายผลอย่างตรงเป้าได้มากขึ้น และสอดรับกับกระแสการบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและการปกป้องสิ่งแวดล้อม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้กำหนดเป้าหมายผลักดันสินค้าท้องถิ่น ภายใต้แนวทาง Local+ (โลคัล พลัส) จำนวน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ 1. กลุ่ม BCG ที่มุ่งเน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ สินค้าออร์แกนิก 2. กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ ที่ต้องการรักษาภูมิปัญญา ความเฉพาะถิ่น คุณค่าทางวัฒนธรรม และ 3. กลุ่มสินค้านวัตกรรม ที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าชุมชน โดยจะเข้าไปช่วยเหลือในการให้ความรู้ด้านการผลิต การพัฒนาสินค้า และผลักดันออกสู่ตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้า และสร้างรายได้เข้าประเทศ
โดยมีกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาสินค้า Local+ ได้แก่ 1. การสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการตลาดให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้บริโภค ให้มีความรู้ความเข้าใจถึงคุณประโยชน์ของ Local+ 2. การพัฒนาฐานข้อมูลที่ทันสมัย เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาดเชิงรุกให้กับสินค้า Local+ ในรูปแบบ 2 ภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพส่งออก 3. การขยายตลาดสินค้า Local+ ทั้งในและต่างประเทศ โดยกำหนดจัดงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาคทั้ง 4 ภาค ช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 2566 และจัดงานแสดงสินค้า เจรจาธุรกิจ และสัมมนาวิชาการ Thailand International Local Plus Expo 2023 (TILP Expo 2023) ช่วงเดือน มิ.ย. 2566 เพื่อช่วยให้ความรู้ด้านการตลาด มาตรการ มาตรฐาน ขยายโอกาสของสินค้าเข้าสู่ตลาดเป้าหมายแก่ผู้ประกอบการ และจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (OBM) 4. การสร้างความหลากหลายของสินค้า Local+ ให้ตรงตามความต้องการของตลาด โดยจะช่วยพัฒนาสินค้าตัวใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาด 5. การสนับสนุนเชิงนโยบาย โดยหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกันพิจารณามาตรการสนับสนุน Local+ ในระดับนโยบาย เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการช่วยเหลือ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ“รองนายกฯจุรินทร์ เน้นย้ำว่าพาณิชย์จังหวัดซึ่งเสมือนกับเซลส์แมนจังหวัด ที่ประจำอยู่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จะต้องลงพื้นที่เพื่อคัดสินค้าที่มีศักยภาพ ทั้งกลุ่ม BCG กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ และกลุ่มที่มีนวัตกรรม แล้วรวบรวมทำเป็นฐานข้อมูลสินค้า Local+ เพื่อทางกระทรวงพาณิชย์จะได้เข้าไปช่วยส่งเสริม ทั้งด้านการผลิต การพัฒนาสินค้า การออกแบบ การสร้างเรื่องราว ซึ่งจะทำให้สินค้านั้นๆมีคุณลักษณะพิเศษ มีคุณค่าต่อจิตใจ โดยอาจเป็นจุดขายเรื่องการรักสิ่งแวดล้อม การสืบทอดวัฒนธรรม อันจะนำไปสู่การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้มากยิ่งขึ้น” นางสาวรัชดา กล่าว