“ประยุทธ์” เผย ลงพื้นที่ติดตาม 3 โครงการสำคัญ วานนี้ ทั้งการแก้ปัญหาอุทกภัย ความยากจน และการพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง บอกสัมผัสถึงบรรยากาศชัยชนะและความสำเร็จของคนในพื้นที่ ยกน้ำใจไทยต้นทุนที่ส่งเสริมให้ชาติเจริญ
วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานแฟนเพจเฟซบุ๊กของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความถึงการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาดังนี้ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ
เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผมได้ลงพื้นที่ เพื่อติดตามการทำงานในระดับปฏิบัติการ ที่เชื่อมโยงกับระดับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งผมให้ความสำคัญอย่างมากที่จะต้องได้มาสัมผัสและรับรู้สภาพความเป็นจริง ทั้งความสำเร็จและอุปสรรคของการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ไม่ใช่เพียงการบริหารราชการบนแผ่นกระดาษ หรือในห้องประชุม
โดยครั้งนี้ ผมได้ติดตามโครงการสำคัญๆ ในพื้นที่ 3 โครงการ ได้แก่
1. โครงการ “สี่แควโมเดล” ณ บึงบอระเพ็ด อำเภอเมืองนครสวรรค์ ให้เป็นพื้นที่หน่วงน้ำ กว่า 843,000 ไร่ รองรับปริมาณน้ำรวม 1,080 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อลดความเสียหายของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างนับสิบจังหวัด เป็นส่วนหนึ่งของการถอดบทเรียนจาก “มหาอุทกภัยปี 2554” ที่รัฐบาลได้ปรับปรุงแผนการแก้ปัญหา ให้มีการบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม ทุกลุ่มน้ำจากภาคเหนือให้เป็นแผนเดียวกัน ซึ่งนอกจากการเตรียมพื้นที่หน่วงน้ำตามหลักการ “แก้มลิง” แล้ว ยังจะต้องมีการปรับปฏิทินการเพาะปลูกให้เหมาะสม การส่งเสริมอาชีพประมงและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำในช่วงน้ำหลาก รวมทั้งการเพิ่มศักยภาพพื้นที่เพาะปลูกข้าวฤดูแล้ง โดยการปรับปรุงระบบชลประทานอีกหลายโครงการอีกด้วย นับเป็นการปฏิรูปการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการในทุกระดับ ที่ส่งผลดีอย่างเห็นได้ชัด ทั้งลดปัญหาน้ำท่วม ลดความจำเป็นในการต้องจ่ายเงินชดเชยเยียวยา และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนจากอาชีพเสริม นอกเหนือจากการทำนาด้วย
2. ติดตามการแก้ปัญหาความยากจน ด้วย “ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า” ในระดับพื้นที่ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมานั้น ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ประชาชนกว่า 16,987 ครัวเรือน ได้รับการดูแลแก้ไขจาก "พลังท้องถิ่น" ประกอบด้วย สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา ชาวชุมชน ภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่ ร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด อาศัยความรัก ความร่วมมือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นโมเดลการสร้างความเข้มแข็งให้กับระดับฐานรากของประเทศต่อไป
3. การพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง ณ โรงพยาบาลบึงนาราง จังหวัดพิจิตร ที่ผมถือว่าเป็น “ต้นแบบความสำเร็จ” จากการร่วมมือกันในการรับมือกับโควิดในช่วงที่ผ่านมา ด้วยการระดมสรรพกำลังและระดมทุน-ทรัพยากรจากทุกภาคส่วน เสริมศักยภาพระบบสาธารณสุข จนสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดไปได้ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจในความร่วมแรง ร่วมใจกัน อย่างเข้มแข็ง ของบุคลากรสาธารณสุข และประชาชนทุกคนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง
การลงพื้นที่ในวานนี้ ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของชัยชนะและความสำเร็จในแต่ละกิจกรรม และโครงการของคนในพื้นที่ จากรอยยิ้ม ความสามัคคีพร้อมเพรียง และ “น้ำใจไทย” ซึ่งผมถือว่าเป็นต้นทุนที่สำคัญและแข็งแกร่งที่สุด ที่จะส่งเสริมให้ชาติบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า และฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ในยุคแห่งความผันผวนและท้าทายนี้ไปได้ครับ