xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ปลื้ม ผลการดำเนินโครงการยกระดับ SMEs ผลไม้แปรรูป มูลค่าส่งออกกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ปลื้ม ผลการดำเนินโครงการยกระดับ SMEs ผลไม้แปรรูป ช่วงเวลา 11 เดือน มกราคม-พฤศจิกายน ของปี 2565 มูลค่าส่งออกกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท

วันนี้ (27 ม.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลการดำเนินงานจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โครงการยกระดับสินค้าเกษตร สู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปครบวงจร เพื่อผลักดันผลไม้แปรรูปไทยสู่ตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเกษตรกร

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการสนับสนุน เกษตรกร ผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) กระจายความเจริญอย่างเท่าเทียมในสังคม โดยโครงการนี้ได้ดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึง มกราคม 2566 มีการพัฒนาผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ฝรั่ง และ อะโวคาโด เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการเป้าหมาย ด้วยการใช้นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์วัตถุดิบแปรรูป ให้มีอายุเก็บรักษานานขึ้น และสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มได้ เช่น ทำเป็นผง การทำเป็นเนื้อผลไม้เข้มข้น และการแช่แข็ง เช่น มะม่วงพิวเร อะโวคาโดแช่แข็ง และฝรั่งผงอบแห้ง นอกจากนี้ ยังสามารถนำผลิตภัณฑ์มาประยุกต์เป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำสลัดอะโวคาโดสูตรคีโต แยมมะม่วงสูตรหวานน้อย โยเกิร์ตมะม่วงสูตรคีโต และ แยมฝรั่งอเนกประสงค์

โครงการจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กลุ่มเกษตรกร SMEs วิสาหกิจชุมชน OTOP ที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดความสูญเสียอาหาร (Food loss & Food waste) พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานสากล โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมากได้รับประโยชน์ ทั้งได้รับองค์ความรู้และทักษะการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมแปรรูป จนถึงการจับคู่ธุรกิจกับธุรกิจบริการอาหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตลาดส่งออกผลไม้แปรรูปมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในอนาคต โดยในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน ของปี 2565 ผลิตภัณฑ์ผลไม้กระป๋องและแปรรูป มีมูลค่าส่งออกกว่า 63,202 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“นายกรัฐมนตรียินดีที่โครงการนี้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สามารถช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการ SMEs ให้เพิ่มมูลค่า และพัฒนาสินค้าของตัวเอง จนสามารถแข่งขันทั้งในตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทาง ความต้องการของผู้บริโภคตามกระเเสของธุรกิจในยุคปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต ตลอดจนสำรวจความต้องการ ศักยภาพของแต่ละพื้นที่ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และให้เกิดปรับตัวเท่าทันความต้องการของผู้บริโภค” นายอนุชา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น