นายกฯ ปัดตอบเยือนเยาวราช เจอทั้งเชียร์-ไล่ “ธนกร” เผย นายกฯมองเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เมิน “บิ๊กป้อม” ปาดหน้าทุกพื้นที่ เชื่อ ปชช.หวังการเมืองสร้างสรรค์ ย้ำ ไม่มีเอี่ยว รถ ตร.นำขบวนรับจ๊อบนักท่องเที่ยว vip ลั่นทำงานกับนายกฯ ต้องซื่อสัตย์สุจริต
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ครั้งที่ 1/2566 พร้อมกล่าวเริ่มต้นการประชุมว่า เพิ่งจะผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีนมา ขอให้ทุกคนมีความสุข ความเจริญ อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง อยากให้ทุกคนสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ได้ว่า เราจัดตั้งมาเพื่ออะไร ในเรื่องของการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ติดตามและบูรณาการกัน เพื่อให้ประเทศชาติของเราไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และ ยั่งยืนในระยะยาวด้วย ขอบคุณในผลงานที่ผ่านมา ดและต้องชี้แจงเพิ่มเติม ว่า เราได้อะไรมาแล้วบ้าง และ จะทำอะไรต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม และ ให้ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทักทายสื่อมวลชน ที่ดักรอสัมภาษณ์แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เยาวราชเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่เจอทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านที่ออกมาตะโกนขับไล่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีทั้งผู้เชียร์และผู้ขับไล่ ว่า ตนว่าเป็นเรื่องปกติในทางการเมือง ซึ่งต้องเข้าใจ อย่างกรณีที่ตนไปลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ไปตรวจราชการตามปกติ ได้รับการตอบรับจากประชาชนเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตนั้น เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น นักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมาก เมื่อตนเดินไปทักทายกับประชาชนก็มีการฝากความรักถึง พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดเส้นทาง ตนเซอร์ไพรส์มาก และการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงไปเยาวราชแบบส่วนตัว จริงๆ แล้วท่านตั้งใจไปไหว้พระ และเป็นวันหยุด ท่านบอกจะไปไหว้พระส่วนตัว ซึ่งยังไลน์คุยกับตนที่อยู่ระหว่างไปทำบุญที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ตนยังได้บอกนายกฯว่าไปขอพรให้นายกฯที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และพระพุทธเมตตา นายกฯก็บอกว่ากำลังจะไปเยาวราชเพื่อไหว้พระเหมือนกัน ซึ่งการที่นายกฯลงไปได้เจอพบปะกับประชาชน ตนก็ได้คุยกับท่านและบอกว่าประชาชนมาสะท้อนว่าวันนี้ประเทศฟื้นตัวแล้ว เศรษฐกิจดีขึ้นมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก นายกฯก็ชื่นใจที่ได้เห็นประชาชนมีความสุข
“ทั้งนี้ อาจจะมีมุมมองทางการเมืองของคนที่อาจจะพอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง ตรงนี้ท่านบอกว่าเป็นเรื่องปกติในทางการเมือง ซึ่งท่านก็รับฟังปัญหาของทุกคนอยู่แล้ว” นายธนกร กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯได้บอกหรือไม่ว่าหลังจากนี้อาจจะลงพื้นที่ในนามสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติมากขึ้น เพราะใกล้หมดวาระรัฐบาลแล้ว นายธนกร กล่าวว่า เข้าใจว่า ทางพรรคคงมีโปรแกรมอยู่แล้ว ซึ่งนายกฯคงใช้เวลานอกราชการในการลงไปทำงานการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้เป็นการเอาเปรียบใคร ซึ่งวันนี้ตนเข้าใจว่าหลายฝ่ายจับตาอยู่ว่าจะมีการหาเสียงหรือไม่ แต่ต้องเข้าใจว่าตนและนายกฯหรือทีมกฎหมายก็รู้กฎหมายดี เราไม่เอาเปรียบอยู่แล้ว และคิดว่า วันนี้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการช่วงชิงในเรื่องของผลงาน หรือนโยบายมากกว่าที่จะไปหาเสียง การเมืองที่ไม่สร้างสรรค์คิดว่าควรจะลดน้อยลง ตนเชื่อว่า ประชาชนต้องการการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่โจมตีใคร แข่งกันด้วยนโยบายและผลงานมากกว่า
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุววรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ปาดหน้าพล.อ.ประยุทธ์ มาหลายครั้ง นายธนกร กล่าวว่า เรื่องการปาดหน้า ปาดหลัง ไฟแดง ไฟเขียว ตนคิดว่าไม่ใช่สาระสำคัญ ตนเข้าใจว่า เป็นเรื่องปกติของท่านที่คงมีกำหนดการ ซึ่งนายกฯไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้ เพราะทุกคนมีสิทธิไปตรงไหนก็ได้ และนายกฯเองมีสิ่งที่ท่านจะไปอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่มีปัญหา
นายธนกร ยังให้สัมภาษณ์กรณีนักท่องเที่ยวจีนเผยคลิปรถตำรวจนำขบวนอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวโดยมีค่าใช้จ่าย ที่มีการเชื่อมโยงมาถึงนายธนกร ว่า ขอยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับตนเลย ตนไปไหว้พระที่ประเทศอินเดียอยู่ดีๆ ก็เห็นสื่อนำเสนอข่าวออกมา ซึ่งตนสอบถามแล้วยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับตน และ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตนใช้นำตามปกติ และไม่ได้ใช้ทุกวัน เพราะชอบส่วนตัวมากกว่า และตรงนี้ไม่มีใครคิดจะทำ ซึ่งการไปใช้อำนาจแบบนี้ตนห้ามเด็ดขาด เราทำงานกับนายกรัฐมนตรี สื่อก็เห็นอยู่แล้ว ท่านมีความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้อง ฉะนั้น ตนทำงานกับท่านก็ต้องปฏิบัติตามนี้อยู่แล้ว และโดยส่วนตัวตนก็ไม่มีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว คิดว่าวันนี้สื่อทราบอยู่แล้วว่าเป็นรถนำตรงไหน อย่างไร เพราะมีข้อชี้แจงออกมาแล้ว