รมว.สุชาติ ขอบคุณคกก.อุทธรณ์ สปส. สนองตอบนโยบายรบ. ดูแลสิทธิประโยชน์ผู้ใช้แรงงานทั้งไทยและต่างด้าว ภายใต้หลักมนุษยธรรม สร้างความเท่าเทียม-ยุติธรรม
วันนี้(20ม.ค. 2566) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้การต้อนรับนายอาทิตย์ อิสโม ประธานคณะกรรมการอุทธรณ์ สำนักงานประกันสังคม และคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการอุทธรณ์ในปี 2564 - 2565 พร้อมกล่าวว่า ตามที่สำนักงานประกันสังคม มีภารกิจในการคุ้มครองดูแลผู้ประกันตนและลูกจ้างไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานต่างด้าวให้ได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้แรงงานทุกคน ทุกกลุ่มมีหลักประกันทางสังคมที่มั่นคงนั้น แต่การดำเนินการดังกล่าวพบว่าในแต่ละปีมีเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนจากนายจ้าง ผู้ประกันตนเข้ามาหลายกรณี สำนักงานประกันสังคมจึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์ ขึ้นตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 เพื่อให้บอร์ดนี้มีหน้าที่ในการพิจารณาอุทธรณ์ของนายจ้าง ผู้ประกันตนหรือบุคคลอื่นใด ที่ยังไม่พอใจในคำสั่งของเลขาธิการหรือของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งการตามอำนาจหน้าที่การพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการอุทธรณ์ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบคณะกรรมการ มีผู้ทรงคุณวุฒิ และตัวแทนนายจ้าง ลูกจ้าง ในลักษณะไตรภาคี
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานขอขอบคุณคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ได้ดำเนินงานร่วมกันในการช่วยเหลือดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้แรงงาน และชื่นชมที่ได้ดำเนินการวินิจฉัยอุทธรณ์ภายใต้หลักการ Balance ความรู้สึกประชาชน เพื่อสร้างความยุติธรรม ภายใต้หลักมนุษยธรรม และสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมให้เกิดประโยชน์สูงสุดในสังคม ทั้งในส่วนของนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ใช้แรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่จะมุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติให้แข็งแรง ประเทศชาติแข็งแรง และประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต
ด้านนายอาทิตย์ อิสโม ประธานคณะกรรมการอุทธรณ์ สำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า คณะกรรมการอุทธรณ์ได้เข้าพบรมว.แรงงาน เพื่อรายการผลการดำเนินงานในปี 2564 - 2565 ที่ผ่านมา รวมทั้งรับมอบนโยบายในการปฏิบัติงานเพื่อเป็นแนวทางการในการพิจารณาเรื่องอุทธรณ์ของนายจ้างและผู้ประกันตนทุกสัญชาติเพื่อดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ให้ได้รับความเป็นธรรมและสร้างความมั่นคงภายใต้กรอบกฎหมายต่อไป