โฆษกรัฐบาล เผย ครม. ขยายเวลาลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 5 บาท อีก 4 เดือน ถึง 20 พฤษภาคม 2566 นี้ หลังราคาพลังงานโลกยังผันผวน ไม้ให้กระทบค่าครองชีพ คาด รัฐสูญเสียรายได้ 4 หมื่นล้าน
วันนี้ (17 ม.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันและรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลง ประมาณ 5 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 มกราคม 2566 นี้
ร่างกฎกระทรวงที่เสนอในครั้งนี้ คาดว่า จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการภาษีครั้งนี้ จะดำเนินการเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือนจึงคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษี เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐเป็นไปตามประมาณการการจัดเก็บรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลดูแลมาตรการนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลพี่น้องประชาชน ในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานของโลกยังคงผันผวนและสูงอยู่