“บิ๊กตู่” ร่วมงานวันครู คารวะ “พล.อ.เกษม นภาสวัสดิ์” คุณครูคณิตศาสตร์ ปี 1 จปร. “ครู” เผย ภูมิใจศิษย์เป็นผู้นำประเทศที่ดี ถือเป็นภารกิจหนัก ชี้ ต้องไม่ทิ้งความสุจริต ซื่อสัตย์ บอกนิสัยนายกฯเสียงดังพูดจาฉะฉาน ด้าน “ประยุทธ์” ยันทำตัวอยู่ในกรอบวินัยตามคำสอนครู ยอมรับประเทศยังมีปัญหา แนะ เลือกตั้งขอให้ทุกคนคิดใคร่ครวญเพื่อประเทศชาติอยู่ได้อย่างมีเสถียรภาพ ยิ้มชอบใจเด็กเชียร์สู้ๆ
วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่หอประชุมคุรุสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ 67 พ.ศ. 2566 ภายใต้แนวคิด “พลังครู คือ หัวใจของการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา” โดยปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มอบคำขวัญวันครู ครั้งที่ 67 ว่า “ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต” ทั้งนี้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงได้ทำพิธีคารวะครูอาวุโส ได้แก่ พล.อ.เกษม นภาสวัสดิ์ ครูที่เคยสอนวิชาคณิตศาสตร์ พล.อ.ประยุทธ์ ชั้นปีที่ 1 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จากนั้นนายกฯมอบรางวัล จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ ประจำปี 2566 และรางวัลคุรุสภา ประจำปี 2565 “ระดับดีเด่น” รวมจำนวน 17 ราย
พล.อ.เกษม กล่าวถึงนายกฯสมัยเป็นนักเรียนนายร้อย ว่า นายกฯเป็นรุ่นที่ 12 ปี ตนได้สอนปี 1 วิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งตัวนายกฯเห็นชัดรูปร่างสูงใหญ่เสียงดังฟังชัด กับเพื่อนฝูงพูดจาฉะฉานชัดถ้อยชัดคำ นี่คือ ลักษณะที่ได้พบเห็น และนายกฯเองก็ถือเป็นรุ่นน้องเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมาก่อน ลักษณะประทับใจเป็นทหารที่ดี เข้มแข็ง มีระเบียบวินัยตามที่โรงเรียนนายร้อยต้องการ ในเรื่องการฝึกการอบรมของโรงเรียนนายร้อยเข้มงวดมาก เพราะมีวิธีการและเป้าหมายฝึกให้นักเรียนนายร้อยเป็นสุภาพบุรุษและเป็นลักษณะผู้นำที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ รู้รับผิดชอบต่อหน้าที่ โรงเรียนนายร้อยจะฝึกให้เข้าสายเลือด ถ้าหวนกลับมา นายกฯได้รับหน้าที่เป็นนายกฯ ก็ต้องทำหน้าที่ในตำแหน่งอย่างเต็มที่ จะด้วยวิธีการอย่างไรก็แล้วแต่ จะต้องทำให้สำเร็จให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องไม่ทิ้งความสุจริตซื่อสัตย์ อันนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ภูมิใจมากๆ เท่าที่ได้เป็นครูคนหนึ่งของท่าน ซึ่งท่านมีครูหลายคน ตนเป็นส่วนเล็กๆที่ได้มีส่วนหล่อหลอมทั้งรุ่น ไม่ใช่เฉพาะตัวท่าน แต่บังเอิญท่านเด่นสามารถปฏิบัติได้ตามที่ปณิธานที่ตั้งไว้อยากให้คนเป็นอย่างนี้ ตนถูกใจที่สามารถทำได้ นายกฯจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ คำว่าลูกศิษย์ ตนรักลูกอย่างไรก็รักลูกศิษย์ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะนายกฯ ในความรู้สึกรักมีแต่ความปรารถนาดี ท่านเป็นคนมีมันสมองใช้ได้ ที่เราสอนมาเรียกว่ามีลักษณะผู้นำที่ดี อันนี้เป็นภารกิจที่หนักพอสมควรสำหรับผู้บริหารสูงของประเทศ ตนเห็นใจจริงๆ แต่ทำได้ขนาดนี้จะไม่ให้ภูมิใจได้อย่างไร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานว่า ตนเชื่อมั่นพลังของครูทุกคนเป็นหัวใจนำการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษา ในการสร้างพัฒนาคนเพื่ออนาคตของประเทศ เป็นผู้นำสร้างแรงบันดาลใจ ทัศนคติที่ดีของเด็กนักเรียน ซึ่งตนเคยกล่าวหลายครั้งแล้วว่าเด็กเปรียบเสมือนผ้าสีขาว ด้ายไหมสีขาวถักทอใส่ลวดลาย ใส่สีให้สวยงาม ซึ่งเริ่มจากสีบริสุทธิ์ก่อน ฉะนั้นตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ใหญ่ต้องมองย้อนจะทำอย่างไรให้เด็กเหล่านั้นให้ความสนใจการศึกษา ครูจะต้องนำการเรียนรู้กระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจ สร้างทัศนคติที่ดีให้กับผู้เรียน ให้มีปัญญางอกงามในทางที่ดีถูกต้อง ไม่เกิดความวุ่นวายหรือทำให้เกิดปัญหาสังคมโดยรวม ตรงนี้คือหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องจุดประกายให้ผู้เรียนรู้จักคิดเป็นและแก้ไขปัญหา ถ้าครูดีศิษย์ดีก็มีอนาคต คำว่าอนาคตไม่ใช่เฉพาะตัวเขา แต่เป็นครอบครัวและสังคม ฉะนั้น ครูจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กทุกคนเจริญเติบโตถูกต้องตามทำนองครองธรรม จะต้องมีหลักคิดที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีจิตสาธารณะเผื่อแผ่แบ่งปัน พัฒนาตัวเองเสมอ เพื่อให้สังคมปลอดภัย ต้องรับผิดชอบสังคมและประเทศชาติ การเป็นพลเมืองที่ดีไม่ยาก อยู่ที่จิตใจ ร่างกาย และการประพฤติ
“การจะดีไม่ดีตัวเราเองรู้ว่าทำดีหรือไม่ดี บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ใจก็ว่าไป คนอื่นเขารู้หรือไม่รู้ก็ไม่ทราบ แต่เรารู้ตัวเราอยู่ ฉะนั้นอย่าทำอะไรที่ไม่ดี ผมพยายามประคับประคองทุกอย่างให้เดินหน้าไปได้บนพื้นฐานความไว้วางใจความไว้เนื้อเชื่อใจ และนำไปสู่ความปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ผมไม่อาจกล่าวว่าใครทำดีหรือไม่ดี ผมมีหน้าที่ทำให้มันดีมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือหน้าที่ของผม ฉะนั้นเราต้องสร้างคนของเราให้มีสมรรถนะในการปรับตัวสอดคล้องกับสังคมในอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนแม้จะถูกสอนมาแบบเดิม แต่วันนี้ก็ต้องพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ อ่านหนังสือ รับฟังผู้รู้ และใช้วิจารณญาณในใคร่ครวญจะพัฒนาประเทศให้เกิดประโยชน์อย่างไร ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้อาวุโสทั้งหมดที่ได้สอนมาจนกระทั่งมายืนได้ตรงนี้ เพราะมีครูที่ดีและมีสังคมที่ดี ตนพยายามทำตัวให้อยู่ในกรอบวินัยมาโดยตลอด สิ่งสำคัญครูสอนให้ตนเป็นคนดีและสุจริต ขอยืนยันทุกอย่างจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทั้งสิ้น ไม่มีละเว้นใคร ตราบใดที่มีคดีเกิดขึ้นมา และทุกเรื่องกำลังขับเคลื่อนตรงนี้ และต้องย้อนดูที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และวันนี้เกิดอะไรขึ้น เมื่อเกิดขึ้นมาก็ต้องสอบสวนดำเนินคดี แต่ที่ผ่านมา ทำไมไม่ดำเนินคดีก็ไม่ทราบเหมือนกัน
นายกฯ กล่าวอีกว่า วัฒนธรรมต่างประเทศไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่วัฒนธรรมของเราก็มีอยู่ อย่าลืมรากเหง้าของตัวเองตนพูดเสมอ เราต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเป็นคำกล่าวที่ฟังดูแล้วเข้าใจยาก ซึ่งจริงๆ ไม่ยากเลย แค่ทำความดีทำเพื่อคนอื่นบ้าง ไม่เอาเปรียบใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสงบสุข ครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องจะต้องออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนเข้าใจตรงนี้ เรากำลังก้าวเดินไปสู่อนาคตที่ดี ถ้าทุกคนร่วมมือกัน คิดตรงกัน ขัดแย้งกันบ้างก็หาข้อสรุปให้ได้ว่าจะทำอย่างไร ถ้าไม่ทำก็จะเหมือนเดิมและแย่ไปทุกอย่าง ฉะนั้นเป็นสิ่งที่ครูจะต้องออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนเกิดความรักหวงแหนแผ่นดินเกิด ประเทศชาติ โดยอยู่บนสมมติฐาน หลักการ ที่นักเรียนสามารถสร้างอย่างสมเหตุสมผล ประวัติศาสตร์ไม่ให้เรียนเพื่อขัดแย้งใคร ที่ผ่านมาอะไรไม่ดีอย่าทำ ถ้าเราเดินหน้าไปสิ่งที่ดีมันก็จะเป็นอนาคตของวันข้างหน้า
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ข้อสอบเป็นวงกลมทั้งสิ้น ทำให้การเขียนข้อความก็ไม่ค่อยถนัดกัน ดังนั้น จะสังเกตได้เห็นได้ว่าการเขียนหนังสือจะค่อนข้างอ่อนลง ข้อสอบจะต้องไม่ให้แต่ความรู้จะต้องให้คนพัฒนาด้วย อ่านแล้วเกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนไม่ก้าวล่วง แต่ต้องดูว่าจะปรับปรุงอย่างไรในเรื่องของตำราเอกสาร ต้องสอนทั้งในตำราและนอกตำราที่จะไม่ทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ซึ่งวันนี้หลายอย่างเข้ามาในช่องทางออนไลน์ จึงต้องมีภูมิต้านทานในการอ่านและเสพทุกอย่าง ขณะเดียวกันตนรู้ดีครูก็มีปัญหาส่วนตัว ซึ่งรัฐบาลพยายามช่วยเหลือ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า วันนี้ยังมีปัญหา หากขัดแย้งกันก็ไปต่อไม่ได้ จะทำอย่างไรให้เข้มแข็ง ไม่มีใครทำได้คนเดียว รัฐบาลแก้ไขปัญหาคงไม่พอต้องทำให้ทุกคนเข้มแข็ง ตนอาจจะพูดไปเยอะนิดนึง เนื่องจากประเทศของเรามีปัญหา การเลือกตั้งขอให้ทุกคนมีความคิดใคร่ครวญให้ดีก็แล้วกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติอยู่ได้ บ้านเมืองมีเสถียรภาพ การเงินการคลังอยู่ได้ เราผ่านวันเวลาที่ยากลำบากมาของโควิดมาได้แล้ว อย่าลืมว่าเราฟันฝ่าสิ่งเหล่านี้มาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายและชีวิตที่ต้องสูญเสียไป เราจะต้องให้กำลังใจ ซึ่งกันและกัน วันข้างหน้าจะต้องจับมือเดินกันไปแบบนี้ให้ได้ การช่วยเหลือต่างๆให้มากๆเป็นไปไม่ได้ ให้ย้อนกลับไปดูว่าใช้จ่ายงบประมาณอะไรไปแล้วบ้าง ตนพูดในนามนายกรัฐมนตรี ตนเป็นห่วงในเรื่องเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องเรียนรู้การบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารการเงินการคลังของประเทศด้วยจะได้เข้าใจเสียที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวว่า วันนี้พูดเยอะแล้ว และก่อนขึ้นรถนายกรัฐมนตรีได้อุ้ม “น้องปรีม” เด็กหญิงสรินทร์ธยา จินดามุกข์ อายุ 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของเจ้าหน้าที่คุรุสภา พร้อมกับกล่าวว่า “ที่ทำงาน ก็เพื่อพวกเขา เราทำเพื่อคนเหล่านี้ ในวันข้างหน้าเขาโตมา บ้านเมืองเราก็ทำงานให้พวกเขา” ก่อนจะส่งน้องปรีมให้กับคุณพ่อ พร้อมชมว่า “น้องปรีมน่ารัก ลูกของลุงก็โตหมดแล้ว” จากนั้น น้องปรีม กล่าวว่า “สู้ๆ” ทำเอา พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับยิ้มแก้มปริ พร้อมกล่าวย้ำว่า “สู้ๆ คนไทยต้องช่วยกันเพื่อประเทศชาติ” และก่อนที่จะขึ้นรถ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟอยู่และโบกมือให้กับบรรดาคุณครูและเจ้าหน้าที่ที่มายืนส่ง