วันนี้(13 ม.ค.)นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่เห็นเป็นหมอกจางๆในตอนนี้ ที่จริงมันคือพิษร้ายต่อลมหายใจ การที่คนกรุงเทพฯ ต้องกลับมาสูดฝุ่นพิษ p.m.2.5 ในช่วงนี้ของทุกปี เหมือนเป็นสิ่งแน่นอนยิ่งกว่าการมาของลมหนาวไปแล้ว สะท้อนว่า ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยใส่ใจสุขภาพของพี่น้องประชาชนเลย
นายนิติพล กล่าวต่อว่า ปัญหาจาก p.m.2.5 ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อสุขภาพและสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง มีผู้ที่เสียชีวิตจากสารพิษสะสมนี้ ดังนั้น อากาศสะอาดควรเป็นสิทธิพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ แต่รัฐบาลประยุทธ์กลับปล่อยปละละเลยปัญหา เพราะรู้ดีแก่ใจว่าตนเองคือต้นเหตุที่ทำให้การควบคุมมลพิษย่อหย่อน ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตรการที่เอื้อต่อนายทุนอ้อยและข้าวโพดให้ปลูกกันเยอะๆ ทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน แต่ไม่กำกับให้มีการรับผิดชอบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมต่อการก่อมลพิษด้วยการเผาหรืออื่นๆ ทั้งที่มีอำนาจทำได้ สำหรับกรุงเทพฯ ยิ่งมีปัญหาตึกสูงขวางการระบายอากาศ การก่อสร้างที่เกิดขึ้นมากมายพร้อมๆกันโดยไม่วางแผนก็ให้เกิดฝุ่นจิ๋วสู่อากาศได้ แต่ที่สำคัญสำหรับเมืองคือขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์ กลับมีการลงทุนน้อยนิด จนทำให้คนต้องใช้รถยนตร์ส่วนตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ จึงก่อให้เกิดมลพิษจำนวนมากขึ้นพร้อมกัน
"พล.อ.ประยุทธ์ และพวก เป็นรัฐบาลมา 8 ปี แต่ไม่ยอมแก้ปัญหาอะไรเลย ปล่อยให้คนไทยอยู่กับมลพิษสะสมในทุกๆวัน และยิ่งรุนแรงในช่วงนี้ดังที่เห็น ตึกบางแห่งแทบจางหายไปกับหมอกควัน ท่านเป็นนายกฯมานานกว่าคนอื่น แต่การแก้ปัญหา p.m.2.5 ไม่เคยมีอะไรก้าวหน้าเลย ดังนั้น อย่ามั่นหน้าหวังกลับเป็นรัฐบาลอีกดีกว่า ประชาชนและเด็กๆจะได้มีโอกาสสูดอากาศดีๆและมีอนาคตใหม่ดีๆกับเขาบ้าง" นายนิติพล ระบุ