กกต.กทม. ยันแบ่งเขต 33 เขตเสร็จแล้ว รอ กม.ลูกประกาศใช้ เดินหน้ารับฟังความเห็นก่อนชง 3 รูปแบบต่อเขต เสนอ กกต. เลือก เผย ยังไม่มีร้องพรรค-ผู้สมัคร ติดป้ายหาเสียงผิด กม.
วันนี้ (11 ม.ค.) นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 33 เขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร ว่า ทาง กกต.กทม. ได้เตรียมความพร้อม โดยมีการแบ่งรูปแบบเขตเลือกตั้งไว้หลายรูปแบบตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 ตั้งแต่ข้อมูลแนวเขตเลือกตั้ง ข้อกฎหมายที่กำหนดจำนวนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64 เพื่อให้ กกต.ได้ใช้ดุลพินิจอิสระในการเลือกรูปแบบ เมื่อมีการประกาศจำนวนราษฎรใหม่ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 เราก็จะนำจำนวนราษฎรรายแขวง รายตำบล ดังกล่าว มาพิจารณาว่าเขตเลือกตั้งที่เราได้ทำไว้อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ดูเบื้องต้นยังอยู่ในเกณฑ์ และเราก็ได้เร่งดำเนินการแบ่งเขตอย่างจริงจังแล้วแต่ยังไม่สามารถประกาศเผยแพร่ได้ ต้องรอร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ประกาศใช้บังคับเสียก่อน เนื่องจากมาตรา 27 ของกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่เมื่อยังไม่มีกฎหมายรองรับ เราก็ได้แต่เตรียมการไว้ แต่เมื่อกฎหมายประกาศบังคับใช้ ระเบียบที่กำหนดรายละเอียดของการแบ่งเขตซึ่งทราบว่ามีการดำเนินการยกร่างไว้เสร็จแล้ว ก็จะประกาศออกมา และถึงเวลานั้นการแบ่งเขตก็จะปรากฏออกมา คิดว่าไม่นานนี้
นายสำราญ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อเราได้รูปแบบที่ชัดเจนไม่น้อยกว่า 3 รูปแบบแล้ว ก็จะมีการประกาศรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมือง และประชาชนในเขตจังหวัดนั้นๆ เป็นเวลา 10 วัน ตามที่ระเบียบกำหนด จากกนั้นก็จะนำความเห็นมาประมวลภายในระยะเวลา 3 วัน โดยทุกความเห็นมีความสำคัญ ก่อนจะเลือกรูปแบบที่เหมาะสมเรียงลำดับ 1-2-3-4-5 เสนอต่อ กกต.ในวันรุ่งขึ้น จากนั้นก็เป็นกระบวนของสำนักงาน กกต.ว่าจะเสนอต่อ กกต.พิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยในส่วนของ กกต.กทม. แต่ละเขตเลือกตั้งเราแบ่งไว้เกินกว่า 3 รูปแบบ
เมื่อถามว่า ในส่วนของ กทม.มี 33 เขตเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 เขต ใน 3 เขตดังกล่าวเมื่อแบ่งใหม่จะกระทบไปยังเขตอื่นรวมกี่เขตเลือกตั้ง นายสำราญ กล่าวว่า ขอที่จะยังไม่ระบุ แต่จากที่เราได้แบ่งไว้ตอนเดือน ก.พ. เมื่อนำมาพิจารณากับจำนวนราษฎรที่ประกาศล่าสุด ไม่แตกต่าง โดยของ กทม. 33 เขตเลือกตั้ง จะแบ่งเป็นฝั่งพระนคร รวม 35 เขตปกครอง แบ่งเป็น 23 เขตเลือกตั้ง ฝั่งธนบุรี รวม 15 เขตปกครอง แบ่งเป็น 10 เขตเลือกตั้ง ซึ่งในทางกายภาพ กทม.ไม่ได้มีภูมิประเทศเป็นป่าเป็นภูเขา ดังนั้น การแบ่งเขตก็จะไม่มีเรื่องการร้องเรียนว่าแบ่งเขตแล้วเกิดปัญหาการเดินทางไม่สะดวก อีกทั้งหลักการแบ่งเขต กฎหมายก็เขียนไว้ว่า เขตพื้นที่ต้องติดต่อกัน ไม่สามารถแบ่งพื้นที่ของแต่ละแขวง ตำบล ถ้าจะยกก็ต้องยกมาทั้งแขวงทั้งตำบล ที่สำคัญคือ ความสะดวกของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ส่วนที่ขณะนี้พรรคการเมืองเริ่มมีการติดป้ายหาเสียง นายสำราญ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วง 180 วันก่อนสภาผู้แทนราษฎร ครบวาระ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้พรรคการเมืองผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ โดยการปฏิบัติก็จะเป็นลักษณะเดียวกับที่ผู้สมัคร พรรคการเมืองเคยปฏิบัติในการเลือกตั้งปี 62 ซึ่งจนถึงขณะนี้ กกต.กทม. ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการกระทำในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ กกต.กทม.ได้มีการประชาสัมพันธ์ มาตั้งแต่เนิ่นๆ มาจนปัจจุบันว่าอะไรควรทำ หรือควรแก้ไข อีกทั้งกฎหมายก็เปิดโอกาสให้ กกต.สามารถแจ้งเตือนให้ผู้สมัครแก้ไขภายในเวลาที่กำหนด ถ้าไม่ดำเนินการ กกต.ก็ดำเนินการเองโดยคิดค่าใช้จ่ายจากผุ้สมัคร