รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หารือ ออท.เกาหลีใต้ พร้อมผลักดันและส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ความมั่นคงทางไซเบอร์ สิ่งแวดล้อม แรงงาน Soft power และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
วันนี้ (11 ม.ค.) เวลา 10.30 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายมุน ซึง-ฮย็อน (H.E. Mr. Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทย พบปะหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ โดยยินดีที่ได้ทราบว่า เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ได้พบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูง รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เข้ารับหน้าที่เมื่อปีที่ผ่านมา หวังว่า ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ จะทำให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ พร้อมสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ในทุกมิติ
เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ยินดีที่ได้มีโอกาสมาพบปะหารือกันในวันนี้ และยินดีที่ไทยและเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่น และมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดทุกมิติ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดี ยุน ซ็อก ย็อล ของเกาหลีใต้ ได้มีโอกาสพบกันระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ณ ประเทศกัมพูชา ซึ่งต่างเห็นพ้องในการกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน จึงหวังว่า จะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในอนาคต ทั้งในระดับผู้นำรัฐบาล และประชาชนของทั้งสองประเทศ
โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงความร่วมมือด้านต่างๆ ดังนี้
ความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยี โดยเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ชื่นชมรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีด้านอวกาศ และยินดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้เดินทางไปยังเกาหลีใต้เพื่อหารือถึงร่วมกันทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ หวังว่า ไทยและเกาหลีใต้จะกระชับความร่วมมือด้านดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
ความร่วมมือทางด้านสิ่งแวดล้อม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียินดีที่เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศให้ BCG เป็นวาระแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความร่วมมือทางด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญในเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ โดยเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ยินดีที่เมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีการประชุมกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของไทยและเกาหลีใต้ ซึ่งนับเป็นกรอบความร่วมมือฯ กับไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาค จึงหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะกระชับความร่วมมือด้านดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
ความร่วมมือด้าน Soft Power โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการส่งเสริมความร่วมมือด้าน Soft Power ซึ่งทั้งเกาหลีใต้ และไทย ต่างมีชื่อเสียงและศักยภาพที่สามารถพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก รวมถึงยังสามารถขยายความร่วมมือไปยังสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการท่องเที่ยว อาหาร และอุตสาหกรรมบันเทิง
ความร่วมมือด้านแรงงาน เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ กล่าวชื่นชมแรงงานไทยที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ และยินดีที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการภายใต้ความตกลง Working Holiday Programme ซึ่งเกาหลีใต้ได้ริเริ่มกับไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยลดปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย และยังช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในระดับเยาวชนของทั้งสองประเทศในเรื่องการท่องเที่ยวและการศึกษา
ความร่วมมือในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญและสนใจขยายการลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มองว่า สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มีเป้าหมายผลิตรถ EV เพิ่มมากขึ้น และส่งเสริมเป้าหมายของไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ EV