นายกฯ ประชุมส่งเสริมวิสาหกิจ เผย ตัดสินใจเปิดประเทศรู้ว่าเสี่ยง แต่คุ้มค่า ทำ ปชช.ยิ้มแย้มมากขึ้น ขออย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤต
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 11 ม.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 1/2566 ว่า วันนี้ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจขนาดกลาง และเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ว่า จะทำอย่างไรให้เขาเข้มแข็งขึ้น ทั้งการเงิน ระเบียบ การลงทะเบียน การให้บริการ การจดทะเบียนต่างๆ หลายอย่างก็อยากจะฝากให้ช่วยกันทำความเข้าใจ หลายอย่างดีขึ้น ส่วนที่ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ภายนอกที่เข้ามา แต่อย่าลืมว่าเราอยู่ได้วันนี้ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวที่กลับมานั้น กลับมาเพราะอะไร เราทำอะไรไว้บ้างจนเกิดผลงานวันนี้ เราเห็นประชาชนมีความสุขทุกครั้งที่มีการเดินทางไปท่องเที่ยว ประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใสกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีบางคน บางส่วน บางกิจกรรมที่ยังไม่ดีขึ้นมากนัก ก็ต้องใช้เวลาแก้ปัญหา ตนใช้เวลามาหลายปีแล้ว แต่ต้องเดินหน้าต่อไปในวันข้างหน้าให้ได้ ด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน
“อะไรที่ดีก็สืบสานกันต่อไป อะไรที่ยังต้องแก้ไขผมก็แก้ไขทุกประเด็น เราก็ทำมานานพอสมควร หาให้เจอว่าวันนี้เราดีขึ้นเพราะอะไร ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ไปหาว่าเพราะอะไร ทุกคนต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และธุรกิจในการแก้ปัญหา เพราะรัฐบาลทำในเรื่องของนโยบาย กรอบการดำเนินการ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นประเทศเดินหน้าไปต่อไม่ได้” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะสามารถทำให้จีดีพีโตขึ้นจากที่ตั้งไว้ 3.8 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูว่าสถานการณ์ภายในประเทศว่าเป็นอย่างไร การแก้ไขปัญหาโควิด-19 เราสามารถควบคุมและป้องกันได้หรือไม่ เพราะเป็นความเสี่ยงอย่างมากในการเปิดประเทศ ซึ่งตนก็ตัดสินใจและถือเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า ถูกต้อง ที่ผ่านมา ต้องย้อนไปดูว่า การที่เราเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการเปิดประเทศอย่างครบวงจร ก็ต้องกลับไปดูว่า ดีขึ้นเพราะอะไร ส่วนไหนที่เป็นปัญหาก็แก้กันต่อไป นั่นคือ การขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า โอกาสของเรามีเยอะ วิกฤตก็มีเยอะ เราต้องทำวิกฤตให้เป็นโอกาส อย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤต นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด