รองหัวหน้า พปชร. เผย พรรคเตรียมแถลงนโยบาย 17 ม.ค. ประชุมใหญ่ 21 ม.ค. ดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ คนที่ 30 ลั่น รอบหน้าเกิน 100 ที่นั่ง
วันนี้ (10 ม.ค.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ว่า ในวันนี้ (10 ม.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการนโยบายพรรค ที่มี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รวมถึงตน เป็นกรรมการ และในวันที่ 17 ม.ค.จะมีการแถลงนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หลังจากนั้น จะมีการเริ่มติดป้ายนโยบายของพรรคต่อไป ต่อจากวันนั้นในวันที่ 21 ม.ค. จะมีการประชุมใหญ่พรรค พปชร. โดยใช้ที่ทำการพรรค พปชร. ถนนรัชดาภิเษก เป็นสถานที่จัดการประชุม เนื่องจากมีความสะดวก ส่วนเรื่องการระดมทุนพรรค ขณะนี้กำลังดูช่วงเวลาที่เหมาะสม ตลอดจนวิธีการ เนื่องจากช่วงนี้ไม่เหมาะที่จัดงานที่รื่นเริง ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับรูปแบบให้เหมาะสม โดยการประชุมคณะกรรมการนโยบายพรรคในวันที่ 10 ม.ค.จะคุยกันในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า พปชร.จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯอย่างยิ่งใหญ่ นายวิรัช กล่าวว่า พปชร.เอาแรงเราเอาใจมาบันดาลแรง ที่จะส่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค ไปเป็นนายกฯ คนที่ 30 หากเทียบกันง่ายๆ พปชร. คือ ผู้ที่สร้างนายกฯมาแล้ว ครั้งนี้เราจะสร้างหัวหน้าพรรคของเราให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จ
นายวิรัช เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักการเมืองทยอยมาสมัครสมาชิกพรรค เช่น นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ที่เป็นตัวหลักใน จ.ชัยภูมิ จาก 7 เขต เป้าหมายของ คือ 5 ที่นั่ง ส่วน จ.นครราชสีมา 16 เขต เป้าหมาย 12 ที่นั่ง โดยเราวางเป้าไว้ทุกจังหวัด และเติมในส่วนที่ขาด โดยเฉพาะในสายอีสาน ที่บางคนบอกจะสู้เขาไม่ได้ แต่ไม่มีใครคิดว่า พปชร.จะได้ถึง 8.4 ล้านเสียง ซึ่งมาจากการเน้นนโยบายบัตรประชารัฐ ครั้งนี้เราจะปรับปรุงบัตรประชารัฐ ทั้งในส่วนของต่างจังหวัดและ กทม. เราพยายามทำให้เกิดความชัดเจน
เมื่อถามว่า คิดว่า กระแส พล.อ.ประวิตร จะสามารถครองใจประชาชนได้อย่างไร นายวิรัช กล่าวว่า“กระแสของลุงป้อมเกิดจากบรรดาลูกพรรคทั้งหมดร่วมแรงช่วยกัน ซึ่งจะเกิดบันดาลแรงเอง ไม่ต้องห่วงเชื่อว่าจะมีกระแสขึ้นมา และพรรคพลังประชารัฐถือว่าเป็นยุคใหม่ เพราะวันนี้ทุกคนมีความรู้สึกว่าทุกคนตั้งใจทำงาน และเมื่อลูกพรรคลงไปในพื้นที่จะพูดเองว่าทำไมถึงสนับสนุน พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ”
เมื่อถามว่า การเปิดหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเป็นการแข่งกันเองของพี่น้อง 2 ป. หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ในทางการเมืองหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในส่วนความสัมพันธ์ของพี่น้องเป็นเรื่องระหว่าง 2 คน แต่ในส่วนการเมืองก็มีหน้าที่ชูหัวหน้าพรรคของตัวเอง เมื่อถามย้ำว่า หลายคนมองว่าเป็นการตัดคะแนนกัน นายวิรัช กล่าวว่า มันคงไม่ตัดหรอก เพราะเขตใครเขตมัน และแต่ละเขตคนก็อยากจะเป็น ส.ส. ไม่ได้ตัดคะแนน อีกทั้งครั้งนี้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ถ้าชอบทั้งคนทั้งพรรคก็เลือก 2 ใบ แต่ถ้าชอบ แต่ไม่ชอบพรรคก็เลือกตามสะดวก แต่ทั้งนี้ เราต้องรณรงค์ให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค เมื่อถามว่า จะมีการไปดีลกันเพื่อแบ่งพื้นที่กันหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ยืนยันไม่มี ไม่มีใครพูดถึงในเรื่องนี้ เมื่อถามอีกว่า แสดงว่า ทั้งสองพรรคปราศจากข้อผูกมัดกัน นายวิรัช กล่าวว่า บอกแล้วว่า เราเป็น พปชร.ยุคใหม่
เมื่อถามว่า การให้ พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้มีการพูดคุยแล้วใช่หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า “มันยิ่งกว่าออโตเมติกอีก มันไม่ใช่เกียร์แมนนวล ตอนนี้เป็นยุค 5จี แล้ว เกียร์ออโตเมติกแล้ว และทุกคนทราบดี เวลาที่สมาชิกพรรคมาอบรมผมเองได้มีการย้ำตลอดว่า หัวหน้าพรรค พปชร.จะต้องเป็นนายกฯ คนที่ 30 โดยวันที่ 11 ม.ค.ผมจะมีการเขียนระบุอย่างชัดเจนว่า ทำไมพวกเราถึงต้องสนับสนุนลุงป้อมเป็นนายกฯ จะเขียนเป็นข้อๆ”
เมื่อถามว่า การจะดันหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ แล้วการเลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้าหมายไว้เท่าไหร่ นายวิรัช กล่าวว่า “คำว่ากี่ที่ต้องให้ประชาชนตัดสินใจ แต่ก็เกินร้อยอยู่แล้ว เฉพาะ จ.นราธิวาส อย่างน้อย 4 ที่นั่ง”