วันนี้ (9 ม.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า ปรากฏการณ์การโห่ใส่เพลงสรรเสริญในคอนเสิร์ต Blackpink ไม่ใช่เรื่องแปลก และถ้าเปิดเพลง แล้วมีคนโห่ มีคนไม่ยืนจำนวนมาก ควรยอมรับความจริงว่ายุคสมัยเปลี่ยน แล้วเลิกพิธีกรรมแบบนี้ ว่า ตนไม่อยากเรียนนายปิยบุตรว่าอาจารย์ เพราะคนที่จะเป็นอาจารย์ได้ต้องให้ความรู้ และให้สิ่งที่ดี ไม่ใช่ให้วิชาที่ผิด แนวคิดของนายปิยบุตรเป็นมะเร็งร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่กับประเทศไทยมายาวนาน สิ่งที่นายปิยบุตรทำนั้นถือว่าเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย และพยายามที่จะผลักดันว่ามันเป็นเสียงส่วนมาก
"รุ่นน้องของตนที่ร่วมเข้าชมคอนเสิร์ตก็เล่าให้ฟังว่ายังมีคนยืนเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญ สวนทางกับที่นายปิยบุตรพูด ที่พยายามจะชี้นำ ตนเชื่อว่าคนส่วนมากของประเทศยังรักสถาบันอีกมากมาย"นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า กฎหมายปัจจุบันไม่ได้บังคับให้ยืน แต่สมัยของจอมพล ป.ได้ออก “พระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ..2485” กำหนดให้ทุกคนจะต้องเคารพตามระเบียบหรือตามประเพณี ต้องยืนเคารพเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงเคารพอื่นๆ ซึ่งบรรเลงในงานตามทางราชการ ในงานสังคม หรือโรงมหรสพ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 100 บาท หรือจำคุก 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ในปี 2553 ได้มีการยกเลิกไป
นายสามารถ ยังกล่าวต่อว่า ในหลายประเทศก็พยายามที่จะเอาสถาบันกลับมา เช่น ประเทศกัมพูชา หรือลาวสถาบันพระมหากษัตริย์ ถูกล่มสลายไปแล้ว สุดท้ายเขาก็เอากลับมาใหม่ ตนจึงขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานราชการดำเนินการปลูกฝังในเรื่องหน้าที่พลเรือนด้วย ในมาตรา 50 ระบุว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร อย่าปล่อยให้แนวความคิดของนายปิยบุตรมาล้างสมองไปในทางที่ผิด ด้วยข้อมูลเท็จ
"ผมขอฝากไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยผลักดันให้กลไลของข้าราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจและหน้าที่ทำตามหน้าที่ และส่งเสริมระบบสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่รัก ตามที่ปรากฎในธงชาติไทย ไม่ใช่เป็นเพียงผืนผ้า อตาเกิดจากจิตวิญญาณ เลือดเนื้อของบรรพบุรุษและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกป้องดินแดนผืนนี้"