xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เห็นชอบร่างแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ครม.เห็นชอบร่างแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อให้การกีฬาเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศ

วันนี้ (3 ม.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  เห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติเสนอ อนุมัติร่างแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2566-2570) ที่สอดคล้องกับแผนต่างๆ อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งแผนดังกล่าวมีฐานะเป็นแผนระดับที่ 3 เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทาแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้การกีฬาเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อให้ไทยมีทิศทางการพัฒนาการกีฬาอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดสาระสำคัญของแผนสรุปได้ ดังนี้

1. วิสัยทัศน์ “กีฬาพัฒนาคน สังคม และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” และพันธกิจ คือ การกีฬาเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคม และเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
2. เป้าประสงค์และตัวชี้วัดหลัก คือ
2.1 ประชาชนทุกกลุ่ม (เด็ก เยาวชน และประชาชน) มีการออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2570
2.2 นักกีฬาผู้แทนของไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ โดยอยู่ในอับดับ 6 ในระดับเอเชียในรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ กีฬาเอเชียนเกมส์ และกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ภายในปี 2570
2.3 บุคลากรด้านการกีฬาทั่วประเทศได้รับการรับรองมาตรฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี
2.4 อุตสาหกรรมการกีฬามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ต่อปี และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการกีฬานั้น แผนการดำเนินการจะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดย 1. มีจำนวนและมูลค่ารายได้ของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการกีฬามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ต่อปี 2. มูลค่าการส่งออกทางการกีฬาโดยรวมมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ต่อปี 3. มูลค่าทางเศรษฐกิจในการจัดการแข่งขันกีฬาในประเทศเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ต่อปี 4. มีมาตรการด้านการเงินและ/หรือภาษีเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา 5. พัฒนาเมืองกีฬาให้สำเร็จและยั่งยืนอย่างน้อยปีละ 1 แห่ง 6. มีการจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศด้านการกีฬา (Gross Domestic Sport Product: GDSP) และการประเมินผลตอบแทนทางสังคม (Social Return On Investment: SROI) ที่เกี่ยวข้องภายในปี 2566 และ 7. การลงทุนจากภาครัฐและ/หรือภาคเอกชนในการค้นคว้าและวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรมการกีฬามีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าอัตราการเจริญเติบโตของมูลค่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา(R&D) ในภาพรวมของประเทศในแต่ละปี

“ในที่ประชุมมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมให้พิจารณาให้ความสำคัญกับการฝึกสมรรถภาพทางกายให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัยเพื่อสร้างความแข็งแรง และสมบูรณ์ทางร่างกาย และการเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกทักษะกีฬาขั้นพื้นฐาน และการฝึกเพื่อพัฒนาสมรรถภาพ และขีดความสามารถให้ได้ระดับสูงสุดต่อไป และสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการพัฒนาการกีฬาและการจัดหมวดหมู่ประเภทกีฬาที่ไทยมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยม” น.ส.ทิพานัน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น