รมว.พลังงาน เชื่อ สถานการณ์เศรษฐกิจปี 66 ดีขึ้น เหตุเป็นปีการเลือกตั้ง แจงรัฐบาลพยายามฟื้นเศรษฐกิจ เปรียบการทำงานรัฐบาลเหมือนเสียง เร็วแค่ไหนก็ไม่เท่าความเร็วแสง ในความรู้สึกคน ชี้ ราคาค่าไฟพุ่งเป็นมหกรรมทั้งอาเซียน
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทาวเศรษฐกิจในปีหน้า ว่า สถานการณ์จะดีขึ้น เนื่องจากเป็นปีที่จะมีการเลือกตั้ง ส่วนใหญ่การอุปโภคบริโภคจะดีขึ้น แต่สิ่งที่ห่วง คือ งบประมาณภาครัฐ การเบิกจ่าย อาจจะล่าช้านิดหน่อย แต่หากตั้งรัฐบาลกันได้เร็ว สานต่อกันได้เร็วก็จะเป็นประโยชน์ ซึ่งปีหน้าน่าจะเป็นทิศทางที่ดีสำหรับประเทศไทย
เมื่อถามว่า ปัจจัยการยุบสภาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นเรื่องการเมือง คิดว่าระหว่างนี้สิ่งไหนที่ทำได้ก็ทำไปจะดีกว่า โดยเฉพาะฉายาที่ได้มาเดี๋ยวจะทำให้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความจำเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ยังจำเป็นหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า โครงการนี้ยังมีอยู่ โดยมีการของบกลางไป โดยใช้งบตามสมควรเป็นหลัก และที่ขอไปจะสามารถปรับรถงบประมาณอย่างไรก็สามารถทำได้ตามกรอบเวลาเวลาที่ยังมีอยู่ แต่ไม่ควรที่จะของบเยอะ ควรให้เหมาะสมกับกรอบเวลาที่ยังมีอยู่ ซึ่งโครงการนี้ได้อนุมัติหลักไปแล้ว แต่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า ปีหน้าคนไทยจะมีความสุขในเรื่องเศรษฐกิจหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า จะมีความสุขแน่นอน ทั้งนี้ ให้ลองไปดูประเทศอื่น แล้วจะพบว่าเราเป็นประเทศที่น่าอยู่
เมื่อถามว่า ปัญหาหนักใจตอนนี้ คือ เรื่องค่าไฟหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็มีอยู่แต่สามารถที่จะอธิบายได้ และสิ่งเหล่านี้เป็นชั่วคราว ซึ่งตอนนี้ สถานการณ์ผู้ซื้อลงตัวมากขึ้น สิ่งที่ห่วงมากคือก๊าซธรรมชาติ ที่บอกว่ามีราคาก็ยอมรับว่าแพงจริง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งผู้ซื้อ ก็เริ่มรวมตัวกันพูดคุยมากขึ้น และวันนี้เราก็ได้พูดคุยกับประเทศญี่ปุ่นมีข้อบันทึกตกลงร่วมกันที่จะทำงานประสานกันและยุโรปก็ทำงานประสานกัน ถือเป็นกระบวนการธรรมชาติ หากไม่ร่วมไม้ร่วมมือกัน ก็จะทำให้กลุ่มที่มีความได้เปรียบ จะอาศัยความได้เปรียบในการกำหนดราคา แต่เมื่อผู้ซื้อมารวมตัวกัน ก็สามารถมีอำนาจต่อรองได้ นี่คือ มีสิ่งที่เป็นพัฒนาการขึ้นมา ที่เกิดขึ้นในยุโรปและขยายผลมาทางเอเชียด้วย
“ใจพวกเราเร็วกว่าแสง ถึงแม้รัฐบาลจะทำงานเท่ากับความเร็วของเสียง มันก็ไม่ทันแสงอยู่ดีเพราะแสงเร็วกว่าเสียงเยอะ ทั้งนี้ถามว่าเสียงเร็วหรือไม่ เสียงก็เร็วมหาศาล ดังนั้นอยากจะให้เข้าใจตรงนี้ ระหว่างความรู้สึกกับการทำจริงมันต่างกัน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอภาคเอกชน ที่ต้องการให้ดูแลเรื่องค่าไฟยังมีความจำเป็น หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องฟังทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเอกชนก็ต้องเข้าใจว่าประเทศอื่นเป็นอย่างไร ซึ่งต้องเปรียบเทียบกัน ตนทำงานก็ต้องดู ความสามารถในการแข่งขันและเปรียบเทียบกับประเทศอื่นด้วย ทั้งนี้ ที่หลายคนยกตัวเลขประเทศอื่นมา เราไปดูแล้วมันไม่ใช่ ประเทศอื่นก็ขยับขึ้นเหมือนกัน
“ตอนนี้เป็นฤดูกาลแห่งการขึ้นค่าไฟทั่วภูมิภาคอาเซียน หากมีสื่อมวลชนที่เป็นเพื่อน ชาวอาเซียนลองถามดูเลย ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไรก็คือ มหกรรมการขึ้นค่าไฟทั่วภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดกันทั้งภูมิภาคนี้ และเป็นที่คาดการณ์กัน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว