เครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชา ผนึกกำลังพิทักษ์สิทธิประชาชนต้องได้ปลูกกัญชา ประกาศจัดเวทีเสวนาคู่ขนานการอภิปราย พ.ร.บ.กัญชาฯ ในสภาผู้แทนฯ อีกครั้ง 28 ธ.ค.นี้ มั่นใจ “ประธานชวน” คุมไม่ให้สภาล่ม พร้อมจัดเวทีคู่ขนานต่อเนื่องจนกว่า พ.ร.บ.จะผ่านออกมา
วันนี้ (25 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย เข้ายื่นจดหมายถึงพรรคการเมือง 3 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่มีแนวคิดที่จะให้กัญชากลับไปเป็นอยู่ภายใต้กฎหมายยาเสพติดแล้ว เครือข่ายประชาชนฯ นำโดย สมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย, เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนกัญชาทั่วประเทศ, กลุ่มหมอยาพื้นบ้าน ฯลฯ ได้มีการติดตามการอภิปรายอย่างใกล้ชิด
ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ทำความเข้าใจกฎหมายทั้งฉบับก่อนการอภิปราย แต่ได้อภิปรายเพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ สุดท้ายแล้ว ส.ส.ไม่ทำหน้าที่ ทำให้สภาล่ม/องค์ประชุมไม่ครบ ไม่อาจลงมติในมาตรา 7 ได้ ทั้งที่มีกฎหมายรอการพิจารณาอีกจำนวนมาก ทำให้ทางสมาคมฯ ยิ่งตระหนักถึงการนำความรู้ความจริงสู่สังคมและขอเตือนการเมืองอย่าใช้กัญชาเป็นเกม ด้วยการไม่ผ่าน พ.ร.บ.กัญชากัญชงฯ ออกมาในสภาชุดนี้ เพราะจะยิ่งทำให้พรรคที่สนับสนุนมีเรื่องนำไปหาเสียงได้อีก ขอให้คิดสองชั้นอย่าคิดชั้นเดียว
ดร.พิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนนักวิชาการก็ขอให้เอาข้อมูลจริงๆ มาช่วยกันออกแบบระบบและให้ความรู้แก่สังคม การให้ข้อมูลเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างจะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม เอารายละเอียดมาเผยแพร่สู่สังคม เพราะความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย อย่ามุ่งเน้นทำลายกัญชาอย่างเดียว กระท่อมเองถ้าใช้เกินขนาดโดยการดองเหล้า หรือสกัดแบบเข้มข้น มีโอกาสกดการหายใจ ซึ่งต้องระวัง ทั้งเหล้าและกัญชาเองมีข้อเสียคล้ายกัน คือ เวลาไปขับรถจะควบคุมกลไกการสั่งงานของกล้ามเนื้อไม่ได้ มีอาการเมาได้เช่นกัน ก็ต้องขอร้องกันว่าเทศกาลปีใหม่นี้ ก็ขอให้ผู้ที่ขับขี่ยวดยานต้องไม่กินเหล้าและกัญชา และขอให้คนไทยทั้งสังคมควรช่วยกันปกปักรักษาสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในการรับรู้ เข้าถึงข้อมูลที่เป็นจริงอันนี้ของตนไว้ให้ดีที่สุด ไม่ให้กลุ่มผลประโยชน์ใช้ข้อมูลเท็จมาบิดเบือน แล้วออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของคนส่วนน้อย
“ทางสมาคมฯ จึงจัดเวทีสภาประชาชนครั้งที่ 2 และคิดว่า จะจัดคู่ขนานไปอย่างต่อเนื่องจนกว่า พ.ร.บ.จะออกมา มั่นใจว่า ท่านชวน หลีกภัย ประธานสภา จะสามารถควบคุมการประชุมไม่ให้สภาล่มได้ ขอเน้นย้ำว่า สมาคมนักวิจัยฯ เป็นองค์กรที่มุ่งสร้างความรู้ ความจริง ให้กับสังคมในทุกมิติ กัญชาเป็นสมุนไพรที่ทางสมาคมให้ความสำคัญเพราะเห็นว่าเป็นสมุนไพรที่คนไทยมีภูมิปัญญาในการใช้เพื่อการดูแลสุขภาพมาอย่างยาวนานและปัจจุบันมีข้อมูลวิจัยใหม่ออกมาตลอดเวลา ดังนั้น เราต้องตามให้ทันและพัฒนาไปให้ไกลกว่าเขา ก่อนอื่นเลยเราต้องมาวางกลไกที่นำกัญชามาใช้ประโยชน์โดยมีการควบคุมในระดับที่เหมาะสมตามธรรมชาติจริงๆ ของกัญชา ไม่ใช้อคติ” นายกสมาคมวิจัยฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเครือข่ายภาคประชาชนฯ จะเสวนาในหัวข้อ “กำหนดกลไกแค่ไหนกัญชาจึงจะเกิดสมดุล” โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่มีฐานของความรู้ความจริงและหัวใจที่ทำงานเพื่อสังคม ประกอบด้วย รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ หน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญกัญชาศาสตร์ ติดตามงานวิจัยและความเคลื่อนไหวในต่างประเทศมานับสิบปี จะพูดในประเด็น “บทเรียนมาตรการในต่างประเทศ”, นายอัครเดช ฉากจินดา ผู้ประสานงานเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย จะพูดในประเด็น “ประสบการณ์ 30 ปี กัญชาควรคุมแค่ไหนจึงเกิดสมดุล”
นอกจากนี้ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ. … สภาผู้แทนราษฎร จะพูดในประเด็น “กลไกใน พ.ร.บ.กัญชาฯ เปรียบเทียบกับกลไกต่างประเทศ”, พ.ต.ท.ณิชาลักษ์ ณรงค์วิทย์ พยาบาลวิชาชีพผู้ร่วมทำงาน คณะทำงานภาคีเครือข่ายกัญชาเพื่อประชาชน หนึ่งในสมาชิกของสมาคมนักวิจัย จะพูดในประเด็น “งานวิจัยกับการสร้างการเรียนรู้ของประชาชนในการใช้กัญชา” ขณะที่ นพ.นิรันด์ พิทักษ์วัชระ หมอผู้ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่สอง และอดีตคณบดีวิทยาลัยการแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เข้าร่วมเป็นกำลังเสริมที่สำคัญ จะพูดในประเด็น “กัญชากับการฟื้นคืนระบบการดูแลสุขภาพและความมั่นคงทางยาของประชาชน” โดยมี ผศ.ดร.ญาณกร โท้ประยูร เป็นผู้ดำเนินรายการ
สำหรับการเสวนาเสวนาครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่ ห้องประชุม ดร.บุญนาค อาคาร วช.3 ชั้น 1 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในวันพุธที่ 28 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00-16.00 น. ถ่ายทอดสดผ่านทาง เพจ GUNJA TV
ดร.พิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเสวนามสมาคมฯ จะนำเสนอเนื้อหา ข้อเสนอแนะต่อสาธารณะด้วยหวังอย่างยิ่งว่าสภาจะลงมติตามความรู้และความจริงพร้อมรับฟังข้อเสนอของภาคประชาสังคมและสภาไม่ล่ม