'เกศินี' ชูธรรมศาสตร์2023 มุ่งผลิตคนทั้งรูปแบบปริญญา -เพิ่มทักษะทุกสาขาอาชีพ รุกทุกแพลตฟอร์ม ออนไลน์ไม่เว้นโลก Metaverse เผยเอกชนสนใจเป็นพันธมิตร ปักธงลงทุนใน EECmd ดันศูนย์พัทยาสู่ Medical Valley แห่งแรกของประเทศ
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการแถลงข่าว TU-Toward 2023 World-Class University “วิสัยทัศน์ธรรมศาสตร์ 2023 มุ่งสู่วิทยาการมาตรฐานโลก” ว่า วิสัยทัศน์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ส่งเสริมความเป็นผู้นำการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์โลกอนาคตทุกมิติ ก้าวสู่มหาวิทยาลัยไทยที่ติดอันดับสูงในระดับโลก ภายใต้แผนยุทธ
ศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ ฉบับที่ 13 เพิ่มการคิดค้นวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆให้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ การพัฒนาอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ ปัจจุบัน ธรรมศาสตร์ยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีมาส่งเสริมการศึกษา เปิดหลักสูตรออนไลน์ 100% ระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ (M.B.A) มีนักศึกษาสมัครถึง 1,700 คน และสร้างองค์ความรู้ให้ผู้เรียนได้อีกนับหมื่นคน สร้างความเท่าเทียมกันทางการศึกษาพัฒนาวิทยาเขตในต่างจังหวัด ผลักดันทุนการศึกษาให้มากขึ้นและรับฟังความคิดเห็นที่ครอบคลุม
ทั้งนี้การดำเนินงานทั้งหมดขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยด้าน Impact of Education อันดับ 1 ของประเทศไทย จาก QS World University Rankings: Sustainability 2023 โดย Quacquarelli Symonds (QS) สถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ได้รับความเชื่อถือของประเทศอังกฤษ ในด้านการจัดการและคุณภาพการศึกษา ด้านการเมือง นโยบายสังคม กฎหมาย และศิษย์เก่ามีบทบาทในภาคการศึกษา
ด้าน ศ.ดร.นพ.รัฐกร วิไลชนม์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มธ. กล่าวว่า ปัจจุบันธรรมศาสตร์มุ่งเน้นการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Learn Anywhere Anytime Any Device และเปิดกว้างคนนอกเรียนเพิ่มพูนทักษะตลอดเวลา เช่น โครงการ TU NEXT e-learning แพลตฟอร์มการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัล เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเลือกเรียนในเรื่องที่สนใจและได้ประกาศนียบัตรในนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU Certificate) มีหลักสูตรให้เลือกเรียนมากมาย นอกจากนั้น ร่วมกับ SkillLane เปิด TUXSA (ทักษะ) หลักสูตรปริญญาโทออนไลน์ด้านบริหารธุรกิจ สาขา Business Innovation และ Data Science for Digital Business Transformation รวมถึงหลักสูตร Applied AI หลังจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชนชั้นนำ เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ไอบีเอ็ม และ DEPA สร้างความรู้ประสบการณ์ให้นักศึกษามีความเป็นผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่
รศ.ดร.สุรัตน์ ทีรฆาภิบาล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารท่าพระจันทร์และวิเทศสัมพันธ์ มธ. กล่าวว่า การยกระดับการเรียนรู้มิติใหม่ใน Thammasat Metaverse Campus เปรียบเสมือนวิทยาเขตแห่งที่ 5 ของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่บนโลกเมตาเวิร์ส และโครงการ “88 Sandbox Spaces” สร้างสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ เพิ่มการเรียนผ่านโลกเสมือนจริงจะเปิดได้ภายใน 3-6 เดือนนี้ หลังจากเสร็จเฟส 1 แล้วจะเปิดให้คนนอกเข้ามาร่วมเรียนรู้ได้ ปัจจุบันมีภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศสนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตร
"ที่ผ่านมาธรรมศาสตร์ ยังปรับการเรียนการสอนมุ่งเน้น การพัฒนาทักษะเดิม (Upskill) และการเพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill) ตอบโจทย์โลกที่คนมีชีวิตยืนยาว ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อหลายๆภาคส่วนเข้าด้วยกัน ขณะที่งานวิจัยพบว่าโลกที่เปลี่ยนมีงานหายไปถึง 90 ล้านตำแหน่ง ขณะเดียวกันก็มีตำแหน่งที่เพิ่มขึ้น 100 ล้านตำแหน่ง โดยงานที่จะหายไปจะเป็นอาชีพที่มีทักษะเดียว ขณะเดียวกันตำแหน่งงานที่ต้องใช้หลายๆศาสตร์ในการทำงาน เช่น การบริหารจัดการคน จะอยู่ต่อไปได้ "
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ มีความเป็นนานาชาติ ชุมชนมีส่วนร่วม มีโครงการที่วางไว้ 3 ปี ปีแรกเปิดให้ชุมชนเข้ามาเรียนรู้ในเรื่องอาชีพต่างๆ ดึงร้านอาหารชื่อดังรอบท่าพระจันทร์สอนทำอาหาร ปีต่อไปจะสอนงานศิลปะและการดูแลสุขภาพ โครงการนี้ทำให้มหาวิทยาลัยมีชีวิตชีวา ดึงหลายกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนักศึกษา อาจารย์ ชุมชน และศิษย์เก่า ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างปรับปรุงตึกโดม ท่าพระจันทร์ เพื่อให้แข็งแรงขึ้นและประชาชนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประชาธิปไตย
ส่วน รศ.นพ.กัมมาล กุมาร ปาวา รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์พัทยา มธ. กล่าวว่า ที่ศูนย์พัทยา มุ่งเน้นการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเกิดใหม่ (New S-Curve) เช่น หลักสูตรเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพและการแปรรูปเคมีชีวภาพ หลักสูตรวิศวกรรมการแพทย์ หลักสูตรล่ามทางการแพทย์ เป็นต้น
สำหรับความคืบหน้าของโครงการ EECmd บนพื้นที่ 585 ไร่ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา ขณะนี้เริ่มก่อสร้าง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์พัทยา (Digital Hospital) แล้ว และกำลังพัฒนาให้เป็น ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) สมาร์ทซิตี้ (Smart City) และสมาร์ทแคมปัส (Smart Campus) สมบูรณ์แบบ ถือว่าเป็นหนึ่งใน Medical Valley ไม่กี่แห่งของโลกที่ทำได้ครบวงจร ปัจจุบันเอกชนมีแผนเข้ามาพัฒนาแล้วหลายส่วน เช่น บริษัท บีกริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) พัฒนาระบบไฟฟ้า , Health Resort ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโดย บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด , พื้นที่ Health Tech (Med Park ) Startup Medical Technology ดำเนินการโดย บริษัท วัน จีโนม เอเชีย และบริษัท ฮอริบา (ประเทศไทย) และ บริษัท TEAM Group จำกัด , พื้นที่ Sport Complex ครอบคลุมพื้นที่ 51 ไร่ ดำเนินการโดย บริษัท สยามกลการ จำกัด , ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดำเนินการโดย บริษัท ภูฟ้า เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด สำหรับ Senior Living พื้นที่ 50 ไร่ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา รวมถึงโครงการสร้างโรงเรียนนานาชาติ เป็นต้น