xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” เช็กเรตติ้งภาคใต้ยังปึ้ก รวมไทยฯเริ่มคึก!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมืองไทย 360 องศา

อาจเป็นเพราะสถานการณ์จนได้จังหวะลงพื้นที่ภาคใต้ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกำลังเกิดภาวะภัยธรรมชาติ เกิดภาวะน้ำท่วมคลื่นลมแรงในหลายจังหวัด มีผู้คนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก มีทั้งทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหาย รวมไปถึงมีคนเสียชีวิต

ดังนั้น การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะเที่ยวนี้ ถือว่ารวดเร็วทันท่วงที โดยเฉพาะลงไปติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมพบปะกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งที่ สงขลา และพัทลุง

ตามกำหนดการ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 56 ตำบลโคกม่วง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง จะเข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย จากนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่ห้องรับรองกองบิน 56

ขณะเดียวกัน มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มารอต้อนรับ ประกอบด้วย นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา เขต 2 นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา เขต 3 ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา เขต 4 และ นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 5 สงขลา นายปรีชา สุขเกษม ผู้ประสานงานเครือข่ายคนรักเมืองสงขลา ทั้งนี้ ส.ส.ที่มารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่เตรียมจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

นายกฯได้ให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบพูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยมี พล.อ อนุพงษ์ นายธนกร นายพีระพันธุ์ และ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หัวหน้าพรรคเทิดไท ร่วมพูดคุยด้วยประมาณ 10 นาที ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ ออกจากห้องรับรองได้หยุดทักทายเจ้าหน้าที่พร้อมบอกขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เราต้องรักษาพื้นที่นี้เอาไว้ให้ได้

จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางไปยังวัดเขาตกน้ำ ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย ณ วัดเขาตกน้ำ ก่อนออกเดินทางไปยังศูนย์อพยพเทศบาลตำบลควนเนียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย

จากนั้น นายกฯเดินจับมือทักทายประชาชน และได้เดินไปยังโรงครัวพระราชทาน ทำผัดกะเพราไก่แจกผู้ประสบภัย โดยระหว่างที่ทำข้าวผัดกะเพรา นายกฯได้กล่าวหลังถูกถามว่านายกฯมีสูตรเด็ดกะเพราหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า เครื่องปรุงใส่ตามปกติ แต่ที่ใส่เพิ่มไปคือหัวใจ ความรัก และหัวใจ นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวอวยพรว่า ใครกินไปขอให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุข มีความรักซึ่งกันและกัน หมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัย คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา และให้ปีใหม่ที่ใกล้จะถึงเป็นปีแห่งความสงบสุขของบ้านเมือง เป็นปีแห่งความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อชาติศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนที่รักของเรา นายกฯใส่หัวใจของนายกฯ ลงไปในนี้ เคี้ยวให้ระวังหน่อยนะ

นั่นเป็นบรรยากาศการลงพื้นที่ภาคใต้บางจังหวัด เช่น สงขลา และพัทลุง ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นการลงไปตรวจดูและสถานการณ์และมาตรการการให้ความช่วยเหลือเยียวยา แต่ขณะเดียวกันมันปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีบรรยากาศการเมืองเจือปนอยู่อย่างแน่นอน รวมไปถึงที่น่าสังเกตก็คือ บรรดา ส.ส.และว่าที่ผู้สมัครก็ล้วนแต่มีข่าวหรือบางคนยืนยันชัดเจนแล้วว่าจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคเดียวกับที่มีกระแสข่าวยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมาสังกัดพรรคนี้ในการเลือกตั้งคราวหน้าอีกด้วย ดังนั้นเมื่อพิจารณาในมุมการเมืองมันก็ย่อมเห็นความเคลื่อนไหวที่ชัดเจน

แน่นอนว่า หากโฟกัสไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ฟันธงกันไปแล้วว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็น “แคนดิเดต”นายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนจะได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว หรือไม่ หรือจะมีชื่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคเป็นอันดับสองต่อเนื่องจากการที่มีข้อจำกัดเรื่องโควต้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีแค่ถึงปี 2568 หรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สรุปก็คือมีเจตนา “ไปต่อ” แน่นอน

และเมื่อตรวจสอบรายชื่อคณะที่ร่วมเดินทางไปกับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ก็ล้วนมีความเชื่อมโยงกันทั้งตำแหน่ง และทางการเมืองทั้งสิ้น เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมาหมาดๆ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ประกาศพร้อมเคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ รวมไปถึงบรรดา ส.ส.ที่ไปต้อนรับก็ล้วนมีรายงานว่าจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ภาคใต้ ก็ต้องยอมรับว่ามีความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ เขายังได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นจากผลสำรวจหรือโพลทุกสำนักแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับความนิยมสูงมาก โดยในอดีตมีการยอมรับจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในภาคใต้ว่าได้รับการเลือกตั้งมาจาก “กระแสลุงตู่” ซึ่งก็ไม่น่าผิดไปจากข้อเท็จริงนัก เพราะครั้งนั้นพรรคพลังประชารัฐสามารถกวาด ส.ส.ภาคใต้ในถิ่นเดิมของพรรคประชาธิปัตย์มาได้ถึง 14 คน

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในวันนั้นกับวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ในเมื่อมีรายละเอียดบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม อย่างน้อยก็มีการเปลี่ยนพรรคจากพรรคพลังประชารัฐมาเป็นรวมไทยสร้างชาติ จะทำให้ “แฟนคลับ” ย้ายข้ามตามมาหรือไม่ ซึ่งเมื่อพิสูจน์จากผลโพล มันก็ยังสะท้อนให้เห็นว่า “ลุงตู่” ยังเป็น “เบอร์หนึ่งในภาคใต้” ซึ่งบรรยากาศจากการลงพื้นที่ก็สามารถยืนยันได้ระดับหนึ่ง

ขณะเดียวกัน จากการเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ และในภาคเหนือที่เชียงรายในวันรุ่งขึ้น ที่คณะติดตามนายกรัฐมนตรีส่วนใหญ่ก็ยังเป็นทีมเดิม ยืนยันกับพรรครวมไทยสร้างชาติ มันก็ทำให้พรรคนี้มีความคึกคักมั่นใจขึ้นกว่าเดิม เพราะการเคลื่อนไหวดังกล่าวถือว่า “เอาแน่ ชัดเจน” ไม่ต้องอธิบายกันแล้ว โดยเชื่อว่า “ยุบสภา” แน่นอน แต่ต้องรอไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า!!


กำลังโหลดความคิดเห็น