รองนายกฯ ชี้ช่องตรวจสอบ ปปง. หลัง “ชูวิทย์” แฉส่อเอี่ยวทุนจีนสีเทา เผย เตรียมเรียก รักษาการเลขาฯ ปปง.ถก เผย นายกฯ ทูลเกล้าฯ กฎหมายลูก 2 ฉบับแล้ว ตั้งแต่ 16 ธ.ค.
วันนี้ (20 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยอ้างสาเหตุว่า มีปัญหาสุขภาพ ว่า ตนยังไม่เห็นหนังสือลาออกดังกล่าว แต่เข้าใจว่า ยื่นไปที่รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. ซึ่งเมื่อรักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.ได้รับหนังสือแล้วก็คงส่งมาให้ตนลำดับถัดไป ขณะเดียวกัน ต้องสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งประธาน ปปง.เช่นกัน
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวตนได้เห็นจากข่าวของสื่อมวลชน และเข้าใจว่าลาออกจริง เพียงแต่หนังสือลาออกยังมาไม่ถึงตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของ ปปง.ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีของนายตู้ห่าว และกลุ่มนายทุนจีนสีเทานั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ก็สมควรให้มีการตรวจสอบดังกล่าว ทั้งนี้ ตนจะนัดหารือกับรักษาการเลขาธิการ ปปง. คือ นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ ปปง. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. ว่าควรจะต้องดำเนินการอะไร อย่างไร
เมื่อถามว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สามารถเข้ามาตรวจสอบ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ได้ด้วยหรือไม่นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ตรวจสอบได้อยู่แล้ว แม้ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์จะลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสขอข้อมูลจากนายชูวิทย์มาประกอบการพิจารณาในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ปปง.ด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ได้คิดอะไรถึงขนาดนั้น อาจจะมีวิธีการอื่นในการตรวจสอบก็ได้
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากนี้ จะอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วัน ตั้งแต่วันที่ทูลเกล้าฯไป ระหว่างนี้นักการเมืองยังต้องปฏิบัติตามกฎเหล็ก 180 วันของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.อยู่