“บิ๊กป้อม” ลุยภูเก็ต ย้ำพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครบ หนุนท่องเที่ยว-ป้องกันน้ำท่วม-แก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง

“ประวิตร” ลงพื้นที่ภูเก็ต ยันรัฐบาลพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครบทุกด้าน พร้อมเดินหน้าเสริมท่องเที่ยวกระตุ้น ศก.- ป้องกันน้ำท่วม-แก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งหาดทรายแก้ว

วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมการท่าอากาศยานภูเก็ต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ประชุมติดตามแผนป้องกันอุทกภัย จ.ภูเก็ต สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ และการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดทรายแก้ว พร้อมมอบนโยบายการบริหารจัดการน้ำให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยเมื่อ พล.อ.ประวิตร และคณะ ถึงสนามบิน จ.ภูเก็ต ได้เดินทางไปกราบสักการะ พระอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทร พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนบริเวณวัดม่วงโกมารภัจจ์ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อพบปะทักทายให้กำลังใจ พร้อมรับฟังความต้องการของประชาชน เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือต่อไป โดย พล.อ.ประวิตร ได้ให้ความเป็นกันเอง พร้อมนำความปรารถนาดี และความห่วงใยจากรัฐบาลมายังประชาชนทุกคน พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครบทุกด้านเพื่ออำนวยความสะดวก และส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชน ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ตามที่ได้สั่งการให้มีการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งส่งผลให้สามารถป้องกันและลดผลกระทบได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความยั่งยืนด้านน้ำให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน เพื่อชีวิตที่ดีของประชาชนและเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ซึ่งได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการดำเนินการ โดยมอบจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตาม 13 มาตรการฤดูฝนอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเตรียมการรองรับฤดูแล้งตาม 10 มาตรการควบคู่กันด้วย โดยเฉพาะการเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กำกับ ติดตาม เพื่อรายงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ทราบเป็นระยะๆ

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ได้มอบให้จังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก พื้นที่เสี่ยงแล้งซ้ำซาก รายงานต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด และคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อใช้วางแผนแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้ สทนช. จังหวัดภูเก็ต ร่วมกันวางแผนการพัฒนาแหล่งน้ำ รวมถึงการใช้น้ำทางเลือกรองรับความต้องการใช้น้ำให้เพียงพอในอนาคต และให้จังหวัด กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งรัดแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดทรายแก้ว และฟื้นฟูสภาพชายหาดที่ได้รับความเสียหายโดยเร็ว