จัดเต็ม 9 วัน! งาน OTOP CITY 2022 สุดยิ่งใหญ่ “มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย” กว่า 2,000 ร้าน เชิญ ปชช.ร่วม พิเศษสุดๆ โซน Health & SPA ชอป ชิม ลิ้ม รส ได้ตั้งแต่ 17-25 ธ.ค.อิมแพ็ค เมืองทองธานี
วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ โรงแรมรอยัลปริ้นเซส หลานหลวง กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวการจัดงานโครงการ OTOP CITY 2022 พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และผู้บริหาร เข้าร่วม โดยนายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยการส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพมีงานทำและสร้างรายได้ โดยการสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สนับสนุนให้ชุมชนได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่แหล่งเงินทุนรวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการ และการตลาดเพื่อเชื่อมโยงสินค้า จากชุมชนสู่ตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในฐานะผู้จัดงานคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้ไม่น้อยกว่า 2,000 ครัวเรือน โดยจะสามารถสร้างรายได้ให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ส่งผลให้คนในชุมชนได้มีกินมีใช้ สร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็งของประเทศต่อไป
“โอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนทุกๆ ท่านร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ภายในงาน “OTOP City 2022” โดยงานจะจัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 17-25 ธันวาคม 2565 รวม 9 วัน ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สุดท้ายนี้ผมขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกคนมาร่วมอุดหนุนสินค้า ผลิตภัณฑ์ล้ำค่าจากเหล่าฝีมือคนไทย พร้อมส่งเสริมภูมิปัญญาและความสามารถของคนไทย เพื่อช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนสืบไป กรมการพัฒนาชุมชนต่างพร้อมส่งมอบความสุขสิ้นปีให้ประชาชนทุกคนร่วมกันภายในงาน OTOP City 2022” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
ด้าน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “OTOP City 2022” ภายใต้ธีมงาน “มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย” อันเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีความล้ำค่า จากฝีมือคนไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและความสามารถของคนไทยอย่างชัดเจน รวมถึงมีการสร้างบรรยากาศภายในงานจากเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาที่แสดงความเป็นท้องถิ่นไทยในแต่ละภูมิภาค ผสมผสานกับสีสันบรรยากาศส่งท้ายปีที่สร้างความคึกคัก สนุกสนานเต็มไปด้วยกิจกรรม และของรางวัลภายในงานตลอดการจัดงาน เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขผ่านของขวัญของฝากที่ดีที่สุดจากฝีมือคนไทย ที่กรมการพัฒนาชุมชนเล็งเห็นความสำคัญและอยากส่งท้ายปีให้กับคนไทยทุกๆ คน อีกทั้งยังคงเป็นการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโตและสามารถกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างทั่วถึง
สำหรับกำหนดการการจัดงาน “OTOP City 2022” ในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สินค้า เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีผลการคัดสรรฯระดับ 3-5 ดาว ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาตามโครงการของกรมการพัฒนาชุมชน และหน่วยงานภาคี เป็นต้น ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วย 1. โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิราเกล้าเจ้าอยู่หัว 2. โซนนิทรรศการกิจกรรมและการจำหน่ายสินค้าของหน่วยงานภาคี ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด 3. โซน OTOP Trader จังหวัด และ OTOP Trader ประเทศไทย จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Open Area เพื่อจัดแสดงผลงานและจัดหาช่องทางทางการตลาดให้แก่สินค้า OTOP ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยบริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด 4.โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP 3-5 ดาว กว่า 2,000 บูธ 5. โซนโอทอปชวนชิม มากกว่า 160 ร้านค้า ทั่วประเทศ
โซนไฮไลต์ภายในงานที่ไม่อยากให้ทุกท่านพลาด ได้แก่ โซน ศิลปิน OTOP จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTOP กว่า 60 รายที่อนุรักษ์และสืบทอดไว้ซึ่งภูมิปัญญาของคนไทยจากรุ่นสู่รุ่น ถ่ายทอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า โซนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีและผลิตภัณฑ์ในหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี จัดแสดงความสำเร็จของชุมชนนวัตวิถีและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถีทั้ง 4 ภาค โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก จัดสรรพื้นที่สำหรับโซน First Lady เพื่อจัดแสดงผ้าที่มี อัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด ที่มีดีไซน์ทันสมัยเหมาะกับคนทุกรุ่น ทุกเพศ และทุกวัย รวมถึง นิทรรศการเส้นไหม มีการแสดงและจำหน่ายเส้นไหม เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เฉพาะพื้นถิ่น ผ่านการจัดแสดงฝ้ายย้อมสีธรรมชาติและการทอผ้า ของผู้ประกอบการ
โซน OTOP ของขวัญของฝาก จัดแสดง สาธิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้า OTOP ที่เหมาะสมเป็นของขวัญ ของฝากสำหรับเทศกาลปีใหม่มากกว่า 24 ร้านค้าที่คัดสรรมาให้ทุกท่านได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ ตรงใจกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นของขวัญจากผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ของขวัญเพื่อการตกแต่งบ้าน จากจังหวัดเชียงใหม่ และของขวัญสำหรับคนชอบทาน อาหารคาวหวานจากจังหวัดเพชรบุรี เป็นต้นที่สำคัญพลาดไม่ได้กับโซนพิเศษภายในการจัดงานครั้งนี้ คือ โซน Health & SPA ที่มีการสร้างสรรค์พื้นที่ภายในงานให้ทุกท่านสามารถได้พักผ่อนหย่อนใจภายในงานไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายสไตล์สปาไทย มีการนวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อผ่อนคลาย พร้อมจัดสรรสินค้าให้เลือกชอปสำหรับท่านที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าประเภทความงาม และสุขภาพ
นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตลอดการจัดงานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตจากนักร้องที่มีชื่อเสียง กิจกรรมนาทีทอง การจับสลากรางวัลชิงโชคตลอด 9 วันจัดงาน การบริการ ห่อของขวัญ การเซอร์ไพรส์แจกของขวัญจากซานตาคลอส และสารพัดกิจกรรมสำหรับของขวัญของฝากอีกมากมายอย่างเต็มพิกัด และในวันสุดท้ายของการจัดงานทุกท่านยังสามารถร่วมลุ้นรับของรางวัลใหญ่ มูลค่ากว่า 400,000 บาทอีกด้วย ขณะเดียวกัน ยังร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน สะดวกกับการเลือกซื้อสินค้าโอทอปได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วมือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Shopee ได้ครบ ทั่วทุกภาคของเมืองไทย อีกกว่า 500 ร้านค้าให้เลือกชม เลือกช้อปกันอย่างจุใจ พร้อมกับโปรโมชันพิเศษตลอดการจัดงานทั้ง 9 วัน และนอกจากนี้ ยังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายและบริการส่งสินค้าและอาหาร เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน Rider โดยผู้ซื้อสามารถเลือกสั่งอาหารจากร้าน OTOP ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
นายอรรษิษฐ์ กล่าวอีกว่า กรมการพัฒนาชุมชนให้ความสำคัญ และตระหนักเป็นอย่างยิ่งสำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเราได้เน้นย้ำไปยังกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่จะเข้าร่วมจำหน่ายสินค้า ในครั้งนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานทุกคน ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมงก่อนการเข้าร่วมงาน นอกจากนี้ในระหว่างการจัดงานเรากำหนดให้มีการสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะเข้าร่วมเยี่ยมชมงาน ซึ่งตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 9 วัน เราได้เน้นย้ำให้ทุกร้านค้าให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงขอความร่วมมือผู้ที่จะเข้าเยี่ยมชนงานทุกท่านจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมกันรักษาและปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด