“ศุภชัย” ขอแจง ยันกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด หลังเกิดการเข้าใจผิดในที่ประชุมขอตัดมาตรา 3 บอกตัวเองขอคิดบวก มองจะทันสมัยประชุมนี้ ดักทางเพื่อนสมาชิก เพื่อไม่ให้ย้อนแย้งกับที่สิ่งที่ห่วงไม่มี กม.ดูแลเยาวชน ควรดันให้ผ่านโดยเร็ว
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง แถลงทำความเข้าใจ หลังมีกระแสข่าวว่าจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
โดย นายศุภชัย ระบุว่า ตนเห็นข่าวแล้วมองว่า ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง มาตรา 3 ระบุว่า กัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดตามกฏหมายยาเสพติดอื่น ซึ่งเป็นการเขียนขึ้นเพื่อย้ำว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่เมื่อวานในที่ประชุมมีการลงมติกันว่าจะตัดความมาตรา 3 ออก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
“การตัดความในมาตรานี้ออก แปลว่า จะไม่ปรากฏความในมาตรานี้ แต่มันไม่ได้ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่ากัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติด มีสื่อบางฉบับออกข่าวว่ากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะตัดความในมาตรา 3 ซึ่งมันไม่ใช่”
นายศุภชัย ย้ำว่า กัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติด เพราะประกาศกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่เดือนมิถุนายน ตนขอยืนยันให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่าความเป็นกัญชาจนถึงวันนี้ยังไม่ได้กลับไปเป็นยาเสพติด
เมื่อถามว่า จากการอภิปรายเมื่อวานนี้ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน นายศุภชัย ระบุว่า มาตรา 3 มีผู้ขออภิปรายมากถึง 40 คน และกรรมาธิการก็พิจารณาประชุมร่วมกันแล้วว่าความในมาตรา 3 ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งเมื่อตัดแล้วก็หวังว่ามาตราอื่นจะได้พิจารณาต่อไป แต่ก็มีสมาชิกในที่ประชุมต้องการที่จะอภิปรายมาตรานี้กัญชาเป็นยาเสพติดหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าสมาชิกไม่ได้ตั้งใจอธิบายมาตรา 3 แต่ตั้งใจอภิปรายเรื่องประกาศกระทรวงสาธารณสุขมากกว่า
นายศุภชัย ประเมินว่า หลังจากนี้ คาดว่า สมาชิกน่าจะอภิปรายกันไม่นาน ซึ่งตนคาดหวังว่าก่อนที่สภาจะปิดกฎหมายนี้จะต้องผ่านเพื่อจะส่งให้สมาชิกวุฒิสภาพิจารณาให้แล้วเสร็จ
“ผมยังคิดในทางบวกเสมอ ว่า สภาเราจะร่วมกันพิจารณาเพื่อไม่ให้ย้อนแย้งกับสิ่งที่ท่านห่วงใยก็คือบอกว่าไม่มีกฏหมายมาดูแลเยาวชน ก่อนจะช่วยกันดูแลเยาวชน ก็ควรจะมีกฎหมายฉบับนี้ผ่านไปโดยเร็ว”