วันนี้(10 ธ.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงวันรัฐธรรมนูญว่า เป็นวันกฏหมายสูงสุดของประเทศ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่ ถึง 4 คดีที่ออกมาวิ่งร้องทุกข์หลายที่ คดีแรก คือ คดียูฟันผู้เสียหายวิ่งไปที่กรมบังคับคดี ขอให้คืนเงินให้กับผู้เสียหาย โดยคดีนี้ตำรวจจับกุมตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 นับเวลาถึงตอนนี้ก็ 8 ปีแล้ว ที่ยังไม่ได้รับเงินคืน คดีที่ 2 วิ่งไปร้องที่สภา ยื่นให้ ส.ส. รับเรื่องช่วยเหลือว่าถูกหลอกลวงให้ลงทุนในเหล้า โดยสุดท้ายไม่ได้เหล้ามาขายตามที่ตกลง
คดีที่ 3 วิ่งร้องสำนักนายกฯ โดยให้ มีตัวแทนมาร้องว่า คดีหลอกลงทุนน้ำมัน ถูกหลอกลวงมีการโฆษณาออกสื่อทีวีให้ประชาชนหลงเชื่อ คดีนี้ร้องดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรมคดีไม่คืบหน้า จึงมาร้องนายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือ
คดีที่4 วิ่งร้องกระทรวงยุติธรรม โดยคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์ ว่าถูกอดีตดารา นายแบบ ชักชวนให้ลงทุน สุดท้ายฉ้อโกงหนีไปกว่า 500 ล้านบาท โดยในเรื่องนี้มีคนโดดตึกตายไปแล้ว เพราะหมดเนื้อหมดตัว
"ผมมานั่งเปิด inbox มีแต่คนร้องมาให้ช่วยเป็นพันๆเรื่อง ว่าถูกหลอกลวง ถูกโกง สารพัดแชร์ แต่ผมมองว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่แค่พาชาวบ้านมาร้องทุกข์ แต่มันต้องให้พวกเขาเหล่านั้นได้รับความยุติธรรมคืนได้รับเงินและทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวงไปคืน ผมจึงเปิดดูรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ชัดเจนว่ารัฐต้องปกป้องทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปรากฏว่า ประเทศไทยมีกฎหมายหลายฉบับ ทั้งกฏหมายอาญา กฏหมายกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฏหมายฟอกเงิน เป็นต้น ผมจึง ขอหยิบยก มาตรา 53 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ระบุไว้ว่า"รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด"
นายสามารถ กล่าวต่อว่า วันนี้มีกฏหมายถึงจะล้าหลังไปบ้าง แต่ก็ดีกว่ายังไม่ทำอะไร ผมเองก็เห็นท่านนายกฯตั้งใจสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ให้รายงานนายกฯใน 30 วัน เรื่องแชร์ลูกโซ่ เป็นอย่างไร ทำไมชาวบ้านยังต้องออกมาร้องไห้รายวันแบบนี้ ผมได้รับข้อมูลจากชาวบ้านบอกว่าปัจจุบันนี้ชาวบ้านโดนหลอก โดนโกงทุกวัน แจ้งความก็ยาก คดีก็ช้า หลอกลวงเงินไปมากมายแถมยังประกันตัวได้อีก ยึดทรัพย์ก็นานกว่าจะคืน หลบหนีอายุความหมดก็กลับมา เรื่องที่เกิดขึ้นมันล้วนไม่ยุติธรรมกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกลวง
"อาชญากรรมจะแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากอาชญากรรมบนท้องถนน จะมาเป็นอาชญากรรมหลอกลวงให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ สุดท้ายผลกระทบตกมาที่ประชาชน การแก้ปัญหาเรื่องนี้นายกฯ ต้องใช้คนเก่งมาแก้ ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นแบบเดิม ที่ปัญหามาไม่รู้จบ ทุกวันนี้หนี้ครัวเรือนสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย การปราบคอรัปชั่นแก้ไม่ได้ เพราะสังคมมองเป็นเรื่องปกติ ผมจึงขอเป็นกำลังใจให้นายกฯแก้ปัญหานี้อย่างรวดเร็ว ทำงานปราบปรามเชิงรุก ปรับโครงสร้างกระบวนการยุติธรรม ให้ทันกับอาชญากรรม ผมและพ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศพร้อมจะเดินเคียงข้างไปกับท่านนายกฯ ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยอย่างแน่นอน"