นายกฯ เผย ทำภารกิจขับเคลื่อนนโยบาย พลิกโฉมประเทศ ยกระดับขีดความสามารถแข่งขันสู่ศตวรรษหน้า ทั้งการเปลี่ยนผ่านสู่ รบ.ดิจิทัล พร้อมติดตามโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model เชื่อ เป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นๆ ย้ำขับเคลื่อนประเทศมีระบบสอดคล้องทิศทางพัฒนาโลก
วันนี้ (30 พ.ย.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจถึงภารกิจในวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ ผมมีภารกิจสำคัญตลอดทั้งวัน ในติดตามการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ที่จะเป็นทั้งจุดพลิกโฉมประเทศไทย และการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสู่ศตวรรษหน้า ดังนี้
ช่วงเช้า ผมได้เป็นประธานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2565 หรือ DG Awards 2022 ให้กับหน่วยงานที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริการประชาชนและภาคธุรกิจ นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านเป็น “รัฐบาลดิจิทัล” ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งจากผลการจัดอันดับโลกของไทยในด้านดิจิทัล ได้แสดงให้เห็นว่าไทยเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1. อันดับดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government Development Index : EGDI) ประจำปี 2565 ดีขึ้น 2 อันดับ อยู่อันดับที่ 55 จากเดิมอันดับที่ 57 ในปี 2563
2. อันดับดัชนีชี้วัดการมีส่วนร่วมทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Participation Index : EPI) ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 33 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 18 จากเดิมอันดับที่ 51 ในปี 2563
3. ดัชนี้ชี้วัดระดับสากล Waseda-IAC World Digital Government Ranking ดีขึ้นมา 3 อันดับ อยู่อันดับที่ 22 จากเดิมอันดับที่ 25 ในปี 2564
ซึ่งผมได้เน้นย้ำ 4 แนวทางในการพัฒนา “รัฐบาลดิจิทัล” ให้กับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ (1) ขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล (data-driven) (2) เร่งพัฒนาทักษะดิจิทัลให้เจ้าหน้าที่ทุกคน (3) ให้โอกาสประชาชนได้มีส่วนร่วมมากที่สุด (4) ขยายเครือข่ายข้อมูลและการบริการผ่านแพลตฟอร์มกลางของรัฐ
จากนั้นในช่วงบ่าย ผมได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามผลการขับเคลื่อน “โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model” ที่มีเป้าหมายสำคัญ คือ การปฏิรูปกระบวนการปลูกข้าวของไทย ให้มีต้นทุนต่ำลงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน โดยปรับพฤติกรรมการทำนา ทั้งนี้จากรายงานผลการปลูกข้าวในพื้นที่รวม 10,000 ไร่ ใน 7 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือ
1. สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ 2,000 บาท/ไร่ (จากเดิมต้นทุน 4,500 บาท/ไร่ ลดเหลือ 2,500 บาท/ไร่) ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง
2. สามารถเพิ่มผลผลิตเฉลี่ย จากเดิม 300-350 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มเป็น 600-620 กิโลกรัม/ไร่
3. เกษตรกรลดการสัมผัสสารเคมี ไม่มีมลพิษตกค้างรอบแปลงนา
4. ได้ผลผลิตข้าวที่มีคุณภาพดี ไม่มีปนเปื้อน ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และมาตรฐานเกษตรปลอดภัย (GAP) ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้ขายได้ในราคาที่ดีขึ้น
ความสำเร็จ และความพึงพอใจของเกษตรกร ต่อโครงการ “ข้าวรักษ์โลก BCG Model” นี้ ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า จะสามารถเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี และช่วยประเทศชาติในเรื่องความยั่งยืน ตามแนวทาง BCG อีกด้วย ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรทุกท่านที่สนใจ ได้ศึกษา และเข้าร่วมโครงการนี้เมื่อมีโอกาส โดยที่ทางภาครัฐจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่นะครับ
สิ่งที่ผมอยากจะสะท้อนให้เห็น ก็คือ การขับเคลื่อนประเทศของรัฐบาลนี้ เป็นไปอย่างเป็นระบบ และแนวทางที่ชัดเจน สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโลก ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในทุกๆ กิจกรรม ได้เริ่มผลิดอกออกผลไปในแนวโน้มที่ดี แม้จะต้องใช้เวลาเปลี่ยนผ่าน ปรับตัว แต่ก็คุ้มค่า ซึ่งยังมีกิจกรรม/โครงการอีกมากมายที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ และขอให้พี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แล้วเข้ามามีส่วนร่วม เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคน และของประเทศชาติครับ
