“บิ๊กตู่” จ่อปรับใหญ่ ครม.วางทัพเลือกตั้ง กลุ่มปากน้ำได้โควตา รมช.เกษตรฯ ส่งคนนอกเช็กคุณสมบัติ

“ประยุทธ์” ได้ฤกษ์ปรับ ครม.ก่อนปีใหม่แน่ หึ่งปรับใหญ่ วางทัพพร้อมเลือกตั้ง ด้านกลุ่ม ส.ส.ปากน้ำ พปชร.ผงาด ได้โควตา รมช.เกษตรฯ ส่งชื่อคนนอกให้สำนักเลขาธิการ ครม.ตรวจคุณสมบัติแล้ว อีก 1 เก้าอี้พรรคให้ “ประวิตร” ตัดสินใจ

วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณารายชื่อบุคคลที่เหมาะสม โดยจะปรับก่อนปีใหม่อย่างแน่นอน และเป็นการปรับใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนรัฐบาลจะหมดวาระ โดยล่าสุด นายกรัฐมนตรี แจ้งไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณารัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคตัวเองว่าจะปรับหรือไม่ ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ส่งชื่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ปรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจาก รมช.เกษตรและสหกรณ์และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจาก รมช.แรงงาน จึงทำให้มีเก้าอี้ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐว่างลง 2 เก้าอี้

ล่าสุด มีรายงานว่า ในส่วนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้น ส.ส.กลุ่มปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ได้รับสัญญาณได้รับโควตาดังกล่าว และส่งรายชื่อคนนอก เข้ามาในโควตารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯแล้ว และขณะนี้ได้ส่งเอกสารข้อมูลมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งเป็นผู้ชาย ส่วนอีก 1 เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยที่ว่างลงนั้น นายกรัฐมนตรีให้อำนาจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พิจารณาส่งชื่อบุคคลที่เหมาะสม

สำหรับกลุ่ม ส.ส.ปากน้ำ ในพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย 1. นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก 2. นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ 3.น.ส. ภริม พูลเจริญ 4. นายยงยุทธ สุวรรณบุตร 5. นายอัครวัฒน์ อัศวเหม และ 6. นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ คนที่จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่คนในพื้นที่รู้จักเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ จะเป็นการปรับคณะรัฐมนตรี พิจารณาวางตัวบุคคลเพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย

นอกจากนี้ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ที่ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ขึ้นอยู่กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค พรรคภูมิใจไทย จะตัดสินใจปรับหรือไม่