วุ่นต่อเนื่อง ประชุมสภา ก้าวไกลชิงเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ถกรถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่เจอเด็ก ภท.รุมสกัด พร้อมขู่นับองค์ประชุม ทำเอา พท. ท้าปิดประชุม สุดท้ายตีตกญัตติ
วันนี้ (24 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.35 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ภายในวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจากเสร็จสิ้น เข้าสู่การพิจารณารับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของ กสทช.ประจำปี 2564 ซึ่งค้างการประชุมมาตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. แต่ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ขอให้สภาลงมติเพื่อส่งความเห็นและข้อเสนอแนะสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ผ่านกระบวนการคัดเลือกจบแล้ว และกำลังรอเข้าสู่ ครม. ถ้าปล่อยเข้า ครม.โดยยังมีปัญหาคาราคาซัง และถ้า ครม.อนุมัติเมื่อใด จะผูกพันอนาคตอย่างน้อย 35 ปี ถือเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชน
ขณะที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทั้ง นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เห็นว่า ไม่ควรอนุญาตให้เสนอญัตติ เพราะเป็นการอภิปรายและกระทบบุคคลภายนอก อีกทั้งเรื่องนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล หากให้อภิปรายถือเป็นการก้าวล่วงหรือไม่ จึงไม่เห็นด้วยให้มีการเลื่อนญัตติด่วนขึ้นมาพิจารณา ที่สำคัญ ตัวแทนของ กสทช.มารอชี้แจงรายงานแล้ว และคิดว่า หลายคนน่าจะสอบถามเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก จึงขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระ
ทั้งนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ชี้แจงว่า นายสุรเชษฐ์ ไม่ได้เสนอเลื่อน แต่เป็นการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาไปตามระเบียบวาระ แต่อยากให้พิจารณาญัตติด่วน ดังนั้น หากพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วย ควรอภิปรายถึงเหตุผล
แต่เมื่อ นายศุภชัย จะเปิดโอกาสให้ผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่ายได้อภิปราย นายภราดร ได้ท้วงว่า ประธานวินิจฉัยแบบนี้ไม่ได้ เพราะผู้เสนอญัตติได้อภิปรายเหตุผลไปแล้ว ตามธรรมเนียมปฏิบัติต้องลงมติให้เรียบร้อยว่าจะพิจารณาญัตติด่วน หรือพิจารณาตามระเบียบวาระ แล้วค่อยมาอภิปรายกัน แต่ นายศุภชัย ยังยืนยันให้ผู้เสนอญัตติทั้งสองฝ่ายอภิปราย ทำให้ นายภราดร ไม่พอใจ และเสนอให้นับองค์ประชุม
แต่ นายจิรายุ สวนขึ้นว่า หากนับองค์ประชุม เดี๋ยวสภาก็ล่มอีก อุตส่าห์มาตั้งแต่เช้า ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องนับ เสนอปิดประชุมเลย อาการอย่างนี้คือกลัว แต่ถ้าจะนับก็นับแบบขานชื่อ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังคงถกเถียงเรื่องการนับองค์ประชุม โดย นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ติดใจที่จะนับองค์ประชุม แต่อยากให้ประธานและฝ่ายเลขาฯ ใช้มาตรฐานเดียวกันกับการประชุมสภาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. โดยเอาชื่อ เอาพรรคไปประกาศ อย่าเลือกปฏิบัติเฉพาะที่ฝ่ายตัวเองได้ประโยชน์ ต้องเอาชื่อไปประกาศว่ามันล่มเพราะใคร
ทั้งนี้ นายศุภชัย ได้พยายามประนีประนอมว่าไม่ต้องมีการอภิปรายแล้ว ทำให้ นายภราดร ยอมถอนการเสนอให้นับองค์ประชุม แต่ นายจุลพันธ์ ยังไม่ยอม เพราะอาจไม่ได้อภิปรายญัตติรถไฟฟ้าสายสีส้ม จึงขอให้นับองค์ประชุม
จากนั้นที่ประชุมลงมติว่าจะเห็นด้วยกับญัตติด่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มหรือไม่ โดยมีผู้เข้าประชุม 273 ถือว่าครบองค์ประชุม และมีผู้ลงมติ 335 เสียง เห็นด้วย 140 เสียง ไม่เห็นด้วย 193 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง ถือว่าที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบกับญัตติด่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม