จับโป๊ะเห็นๆ “เพจดัง” เปิดความจริง “ปวิน” หลอกสาวก ชี้เป้าด่ารัฐบาล โวยวายถูกโจมตีแอกเคาต์เฟซบุ๊ก “โรม” อายชาวโลก จนท.สลายชุมนุมป่วนเอเปก “ดร.เสรี” จวกคนปล่อยม็อบลงถนน “โยนบาป” ให้ฝ่ายความมั่นคง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพข้อความ “ปวิน” (นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
นักวิชาการและผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ) โวยวายถูกรัฐบาลโจมตีแอกเคาต์เฟซบุ๊ก พร้อมระบุว่า
“อ่านจากที่ ปวิน แคปมา นะครับ
Take steps to protect your account
ทำตามขั้นตอนเพื่อปกป้องบัญชีของคุณ
Pavin, a sophisticated attacker may be interested in
your Facebook account.
ปวิน ผู้โจมตีที่เชี่ยวชาญ #อาจสนใจ บัญชีเฟซบุ๊กของคุณ
What this means
We do not believe your account was compromised,
but someone may be attempting to gain information
about you based on what you share publicly.
หมายความว่าอะไร
#เราไม่เชื่อว่าบัญชีของคุณถูกบุกรุก แต่อาจมีคนพยายามหาข้อมูล
เกี่ยวกับคุณ #ตามสิ่งที่คุณแบ่งปันแบบสาธารณะ
What you can do
Visit our Help Center for steps you can take to
protect your account.
คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง
ไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของเราเพื่อดูขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้
ปกป้องบัญชีของคุณ
แล้วนางก็ไปเข้า Help Mode เอาข้อความ sophisticated attacker ไปเสิร์ช ซึ่งมันอยู่ในหัวข้อเดียวกับ Government Backed ละก็ โวยวายว่า รัฐบาลพยายามโจมตีแอกเคาต์นาง
สรุปคือ เป็นการแจ้งเตือนของเฟซบุ๊กเฉยๆ ให้เพิ่มมาตรการป้องกันบัญชี
เพราะเห็นนางเป็นบุคคลสาธารณะ ที่มีคนติดตาม ไม่ได้มีใครโจมตีแอคเคาทน์ของมึงเอ๊ย นางเลย 😂😂😂😂😂”
ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์กรณีเดียวกันนี้ว่า
“เดี๋ยวๆ #ปวิน .... คือไม่ #makesense หว่ะ...
มันจะมี “รัฐบาลติงต๊อง” ที่ไหนเวลาคุกคามแพลตฟอร์มหรือโปรไฟล์บุคคลในอินเทอร์เน็ต แล้วจะบอกว่าตนเองเป็น “รัฐบาล"???????????
อันนี้คือ แม่งตลกมากกกกกก
อีกอย่าง ปวินรู้ได้ไง ว่าไอ้ที่บอกว่า “สิ่งที่รัฐบาลหนุนน” น่ะ มันรัฐบาลประเทศใด?????? ห๊ะ สมองเชื่อม matrix แล้วคิดนึกจินตนาการได้เองรึ? หลักฐานก็ไม่มี?????? ไอ้ เอกสารแจ้งเตือนแบบนี้ photoshopเอาก็ได้....
....
สรุปใครคุมเฟซบุ๊กครับ.....
อึ้งแอม หรือ รัฐบาล?
#หลอกควาย ขอหญ้าสดๆได้ไหม
อย่าหลอกด้วยหญ้าเปื่อยเลย
....
ปล ทีกรูไม่เห็นจะแจ้งเตือนน่ารักๆ แบบนี้ ....เฮีย #อึ้งกับแอม แม่งรวบกระทู้กรูหายเลย...”
ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีม็อบหยุดเอเปก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนสลายการชุมนุม ว่า
“ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ไม่มีตรงไหนเลยที่ห้ามมิให้ประชาชนเดินขบวนไปยังสถานที่จัดประชุม APEC แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดให้ศูนย์ประชุมสิริกิติ์เป็นสถานที่ตามความในมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.ชุมนุม แต่มาตรา 8 กำหนดแค่ว่าการชุมนุมต้องไม่ขวางทางเข้าออกหรือทำให้ไม่สามารถใช้งานสถานที่ได้
ดังนั้น ต่อให้ประชาชนเดินขบวนไปถึงหน้าศูนย์ประชุมฯ ถ้ายังจัดการให้การประชุมดำเนินต่อไปได้ ประชาชนก็ย่อมมีสิทธิชุมนุมได้ (ซึ่งในความเป็นจริงกำลังตำรวจที่มีสามารถบริหารจัดการได้แน่ๆ)
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ม็อบ 18 พ.ย. 65 คือ ตำรวจไปตั้งแนวขวางและสลายการชุมนุมตั้งแต่บริเวณลานคนเมืองและถนนราชดำเนิน ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เกือบ 10 กิโลเมตร ผู้ชุมนุม ณ ตอนนั้นไม่ได้มีความใกล้เคียงกับการจะทำให้การประชุมจัดต่อไม่ได้เลย ทั้งยังปรากฏภาพตำรวจเตะผู้ชุมนุม ใช้ปืนกระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุมระยะประชิดโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า
สิ่งที่สร้างความอับอายขายหน้าต่อชาวโลกมากที่สุด จึงไม่ใช่การที่มีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วง ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนในนานาอารยประเทศเขาทำกันได้ แต่คือการใช้อำนาจอย่างล้นเกินของรัฐบาลเพื่อกดขี่ผู้เห็นต่างนั่นเอง”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
“เปิดโอกาสให้ชุมนุม แต่คุมไม่ได้ ก็ยังยอมให้ชุมนุม
บอกไม่ให้ค้างคืน แต่เขายืนยันจะค้างก็ยังยอมให้ชุมนุม ไม่ยกเลิกการอนุญาต อ้างว่าพวกเขาค้างที่ลานคนเมือง ก็ยังดีกว่าให้พวกเขาไปลงถนน
เขาบอกว่าเขาจะลงถนน แต่ก็ยังยอมให้ชุมนุม แทนที่จะห้ามว่าถ้าหากคิดจะลงถนน ก็จะไม่ยอมให้มาตั้งต้นการชุมนุมที่ลานคนเมือง กลับมาบอกว่าถ้าผู้ชุมนุมลงถนนก็เป็นเรื่องของความมั่นคง
ตกลงจะไม่ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองเลยหรือไร หรือว่าแท้ที่จริงแล้ว เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของคนที่ออกมาชุมนุม
ตกลงแล้ว มีความรับผิดชอบอะไรในการทำหน้าที่ตามตำแหน่งบ้าง
คนที่เลือกเขามา รู้สึกอะไรยังไงบ้างคะ ยังให้โอกาสเขาอีกเหรอคะ”
ดร.เสรี โพสต์อีกว่า
“ให้ลาออกก็คงไม่มีหวังใดๆ
จะไล่ก็คงทำไม่ได้
มหาดไทยก็ไม่กล้าปลด
พวกเราก็ต้องอด ต้องทนต่อไป
ผลงานอะไรที่ชัดๆไม่มีให้เห็นเป็นประจักษ์
เห็นข่าวทีไรเครียดค่ะ ไม่พอใจ แต่ทำอะไรไม่ได้
ใครจะรับผิดชอบที่เราต้องเจอกับสภาพเช่นนี้
ตอนนั้นคิดอะไรกันอยู่คะ ถึงได้เทคะแนนให้กันขนาดนั้น
ยังพอใจกันเหมือนเดิมไหมคะ รู้สึกเสียใจกันบ้างไหมคะ”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ มีทั้งเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ และน่ายินดี แทนประเทศไทย คนไทย ที่มีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ในการประชุมสุดยอดผู้นำ “เอเปก” ซึ่งถ้าทุกอย่างราบรื่น และสร้างความประทับใจให้กับบรรดาผู้นำทั่วโลก ประเทศไทย และคนไทยทุกคนจะได้รับการสรรเสริญเยินยอ
นี่ยังไม่นับดอกผลจากการประชุมครั้งนี้ ทั้งในระยะสั้นที่เงินสะพัดจำนวนมาก และมีรายได้เข้าประเทศเห็นๆ มีการใช้บริการโรงแรมที่พักจำนวนมาก มีการใช้จ่ายมากมาย
ส่วนระยะยาว อาจเป็นเรื่องของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่จะตามมา
เรื่องนี้หลายคนรู้ดี บางคนรู้ดีแต่แกล้งไม่รู้ไม่สนใจ บางคนอิจฉาริษยากันใหญ่ เพราะไม่คิดว่า รัฐบาลที่ตัวเองเกลียดจะได้สร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศ ได้หน้าได้ตาเกินตัวเอง โดยลืมไปว่า กำลังทำตัว “มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ”
แต่ก็มีบางเรื่อง ที่น่าเศร้า และน่าผิดหวัง กับ สิ่งที่คนบางกลุ่มฉวยโอกาสจากเวทีระดับสากลนี้ ชุมนุมประท้วงโดยไม่สนใจว่า นี่คือ โอกาสที่คนไทยจะสร้างความเชื่อมั่นกับนานาอารยประเทศ เพื่ออนาคตของประเทศร่วมกัน
ถ้าคิดแบบเด็กยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้ามีผู้ใหญ่หนุนหลัง จะเอาอะไรมาอ้างว่า หวังดีต่อประเทศไทย และคนไทย คิดดู!?