“เลขานุการวิปรัฐบาล” คาด ร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง เข้าวาระสอง 7 ธันวา หากจะเลื่อน “ภท.” ต้องมาคุย ปัดพิจารณาร่างกฎหมายช้า เอื้อนายทุนธุรกิจกัญชาเพื่อสันทนาการ
วันนี้ (18 พ.ย.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงความจำเป็นต่อการเลื่อนระเบียบวาระให้ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ... ขึ้นมาพิจารณา ตามที่วุฒิสมาชิกเรียกร้อง ว่า การเลื่อนระเบียบวาระดังกล่าวนั้น ในกระบวนการของพรรคพลังประชารัฐ ไม่สามารถเร่งได้ เพราะต้องยอมรับว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ ดังนั้น หากพรรคภูมิใจไทยอยากให้เลื่อนต้องประสานมายังวิปรัฐบาล และพิจารณารายละเอียดก่อนให้มติของวิปรัฐบาลพิจารณา และใช้เสียงของสภา อย่างไรก็ดี ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่ประสานเรื่องดังกล่าวมา ดังนั้น จึงไม่ทราบเจตนารมณ์ หากจะเสนอสามารถเสนอได้ในการประชุมวิปรัฐบาล วันที่ 21 พฤศจิกายนนี้
นายอรรถกร กล่าวด้วยว่า ตามระเบียบวาระพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา อยู่ในวาระเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ลำดับที่ 3 ต่อจาก ร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอนถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ... และ ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง พ.ศ... ดังนั้น คาดว่า หากเลื่อนพิจารณาคงไม่มีแตกต่างกัน แต่ยอมรับว่า ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง มีมาตราให้พิจารณาจำนวนมาก อาจต้องใช้เวลาพิจารณา เบื้องต้นร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง อาจเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระสองได้ ประมาณวันที่ 7 ธันวาคม
“การเร่งพิจารณาร่างกฎหมายนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ผมมองว่า อยู่ที่ฝ่ายค้านมากกว่า หากสังเกตตามข้อเท็จจริง พบว่า การพิจารณาร่างกฎหมายจะเร็วหรือช้า อยู่ที่การใช้เวลาพิจารณาในแต่ละมาตรา ที่ผ่านมมา ฝั่งรัฐบาลใช้เวลาไปไม่ได้” นายอรรถกร กล่าว
เมื่อถามว่า การพิจารณาร่างกฎหมายกัญชาฯ ที่ล่าช้า ถูกตั้งข้อสังเกตจาก ส.ว. ว่า เพื่อเอื้อนายทุนธุรกิจกัญชาเพื่อสันทนาการ นายอรรถกร กล่าวว่า ส.ว.มีสิทธิคิดได้ แต่ในกระบวนการการพิจารณากฎหมายนั้นจะพิจารณาตามลำดับเรื่องที่เสนอเข้ามาก่อน และหลัง ยกเว้นบางเรื่องที่จะคุยกับฝ่ายค้านเป็นกรณีพิเศษ เช่น พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เป็นต้น โดยทำอย่างโปร่งใส ส่วนที่ว่าจะเอื้อนายทุนตนไม่เคยเห็นใครมาคุย
“ยืนยันว่า ร่างกฎหมายกัญชา กัญชง หากจะเลื่อน ด้วยมารยาทไม่สามารถเลื่อนแทนเขาได้ เขาเป็นเจ้าของต้องมาคุยกันว่า อยากเลื่อนหรือไม่ และต้องใช้เหตุผลของวิปคุยกัน จากนั้นตัดสินด้วยเสียงส่วนใหญ่ว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน” นายอรรถกร กล่าว