“นรุตม์ชัย บุนนาค” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางคอแหลม จี้หน่วยงานรัฐประกาศไทม์ไลน์ช่วยเหลือเหตุไฟไหม้บ้าน ปชช.ให้ชัดเจน อย่าปล่อยชาวบ้านเผชิญชะตากรรมลำพัง เสนอติดอุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น-สอนใช้ หวังลดความเสียหาย แนะแก้ปัญหาต้นเหตุ อย่าปล่อยให้เกิดแล้วคิดแก้
วันนี้ (11 พ.ย.65) นายนรุตม์ชัย บุนนาค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม กทม. พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในซอยเจริญราษฎร์ 7 เขตบางคอแหลม กทม. เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาชน จำนวน 2 หลังคาเรือน ที่ได้อาศัยอยู่กันประมาณ 10 คน ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ตนก็ได้รีบให้ทีมงาน เร่งลงพื้นที่ทันที เพื่อคอยประสานให้ความช่วยเหลือกับผู้เสียหายในเบื้องต้นทันที และล่าสุดเมื่อวานตนได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง ซึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคฯ ได้ฝากความห่วงใยมาถึงพี่น้องที่ประสบภัย และกำชับให้ตนติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
“จากการลงพื้นที่ไปสำรวจบ้านที่ถูกไฟไหม้ ผมให้กำลังใจกับผู้เสียหาย ซึ่งพบว่า สภาพบ้านเสียหายทั้งหลัง ขณะนี้ ผู้เสียหาย ต้องมาพักอาศัยที่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักงานเขตบางคอแหลม ชั่วคราวก่อน และทราบว่า หน่วยงานรัฐ กำลังเร่งวางแผนในการช่วยเหลือเยียวยา สร้างบ้านให้ใหม่ทั้งหลัง และในช่วงนี้ ก็จะให้ผู้เสียหายไปอยู่ห้องเช่า ในบริเวณใกล้เคียงเดิมไปก่อน โดยถือว่า เป็นการช่วยเหลือได้รวดเร็ว แต่ผมก็อยากให้หน่วยงานรัฐ ได้มีแผนระยะเวลาการช่วยเหลือที่ชัดเจน พร้อมบอกว่า หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ” นายนรุตม์ชัย กล่าว
นายนรุตม์ชัย กล่าวอีกว่า จากที่ตนได้พูดคุย ผู้เสียหายยังสับสนว่า หน่วยงานใดจะเป็นคนช่วยเหลือหลัก เพื่อที่จะคอยติดตามความคืบหน้าได้ถูก เพราะในอดีตเคยมีประชาชนในพื้นที่ เคยประสบเหตุเพลิงไหม้ ในช่วงแรกก็มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ แต่พอเรื่องเงียบ สังคมไม่สนใจ ก็ปล่อยให้ผู้เสียหาย เผชิญชะตากรรมเพียงลำพัง กว่าจะได้บ้านใหม่ ต้องใช้เวลากว่าปีครึ่ง ดังนั้น กรณีนี้ ผมจึงอยากเรียกร้อง ให้ประกาศไทม์ไลน์การช่วยเหลือให้ชัดเจน เพื่อป้องกันเรื่องเงียบ แล้วปล่อยให้ผู้เสียหายถูกลอยแพ ซึ่งจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมผู้เสียหาย
นายนรุตม์ชัย กล่าวต่อว่า เหตุเพลิงไหม้ลักษณะนี้ เราสามารถช่วยกันแก้ปัญหาในเบื้องต้น เพื่อลดความเสียหายได้ ด้วยการส่งเสริมให้มีอุปกรณ์ดับเพลิงในเบื้องต้น โดยเฉพาะชุมชน ที่อาศัยอยู่กันจำนวนมาก พร้อมคอยจัดอบรมการใช้อุปกรณ์อยู่เสมอ เพราะจากการลงพื้นที่ ตนรู้สึกเสียใจมาก ที่บ้านหลังเกิดเหตุ มีถังดับเพลิงติดอยู่ แต่ไม่ได้ถูกใช้งาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คนที่เอามาติดให้ ก็เพื่อหวังอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนปลอดภัยจริงๆ เพราะเท่าที่ตนดู สภาพถังดับเพลิงเก่ามาก และน่าจะหมดอายุไปแล้วเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เราควรหันมาให้ความสนใจ ที่ไม่ใช่ติดเพื่อเอาหน้า แต่เราต้องติด เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย และใช้เป็น โดยเวลาเกิดเหตุ ก็จะช่วยลดความเสียหายได้.
